กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ประเทศไทย
เอ็กโก กรุ๊ป แถลงผลการดำเนินงานปี 2550 กำไรสุทธิ 8,402 ล้านบาท เผยกลยุทธ์ปี 51 เน้นขยายการลงทุนในต่างประเทศ เดินหน้าศึกษาโครงการพลังงานทดแทน พร้อมสานต่อนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง
เอ็กโก กรุ๊ป รายงานผลการดำเนินงานในปี 2550 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 8,402 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,386 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับปี 2549 เผยกลยุทธ์ปี 2551 เน้นขยายการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว กัมพูชา และพม่า เดินหน้าสานต่อโครงการที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงและพัฒนาพลังงานทดแทน ป้องกันการกระจุกตัวของเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า พร้อมยืนยันเจตนารมณ์ในการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ตอกย้ำแบรนด์วิชชั่น ‘เราไม่หยุดนิ่งที่จะร่วมสร้างพลังงาน...เพื่อชีวิต’
นายวิศิษฎ์ อัครวิเนค กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินงานในปี 2550 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 8,402 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,386 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 40 โดยคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 15.96 บาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งนี้เป็นผลมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งผลกำไรจากกิจการร่วมค้าโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ตั้งแต่เดือนมกราคม 2550 การรับรู้รายได้จากโครงการขยายกำลังผลิตที่ อมตะ เพาเวอร์ บางปะกง เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2550 และการรับรู้รายได้จากโครงการแก่งคอย 2 โรงที่ 1 เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2550
โอกาสเดียวกันนี้ นายวิศิษฎ์ ยังได้เปิดเผยถึงความสำเร็จในการปรับภาพลักษณ์ (Re-branding Campaign) ในปีที่ผ่านมา ซึ่งเอ็กโก กรุ๊ป ได้ดำเนินงานทางด้านการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร โดยภาพรวมถือได้ว่าได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากกลุ่มเป้าหมายภายในและภายนอก จากผลการสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มเป้าหมายภายนอก 1,000 ตัวอย่าง ใน 4 ภูมิภาค 5 จังหวัด พบว่า ภายหลังจากการรับชมภาพยนตร์โฆษณาทั้ง 3 ชุด ที่ออกอากาศในปีที่ผ่านมา กลุ่มตัวอย่างประมาณร้อยละ 84 สามารถระลึกถึงและรับรู้ว่า เอ็กโก กรุ๊ป คือ ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ที่ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม จากเดิมที่รู้จักเอ็กโกเพียงร้อยละ 35.2 เท่านั้น และจากผลสำรวจความคิดเห็นของพนักงาน พบว่ามีความเข้าใจและพึงพอใจในงานสื่อสารและกิจกรรมที่ดำเนินการทั้งภายในและภายนอกถึง 70%
สำหรับทิศทางการลงทุนในปี 2551 นั้น กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า “ในปีนี้เอ็กโก กรุ๊ป ยังคงดำเนินงานตามแผนระยะยาวที่เราได้วางไว้ โดยจะเน้นการขยายการลงทุนไปยังโรงไฟฟ้าในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่มีการขายไฟกลับเข้ามายังประเทศไทย เช่น ลาว กัมพูชา และพม่า ตลอดจนลงทุนโครงการอื่น ๆ ภายในประเทศที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิง และพลังงานทดแทน เช่น พลังงานลม พลังงานขยะ และพลังงานชีวมวล โดยสัดส่วนการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ อยู่ที่ 70:30”
“อีกด้านที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ คือ การบริหารโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามกำหนด ไม่ว่าจะเป็นโครงการน้ำเทิน 2 ใน สปป.ลาว ที่ขณะนี้ก่อสร้างไปแล้วประมาณ 80% หรือโครงการแก่งคอย 2 จังหวัดสระบุรี ที่ขณะนี้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 99.5% ทั้งนี้ กฟผ. ได้อนุมัติการรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มเติมจากโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 โรงที่ 2 ก่อนวันเดินเครื่องเชิงพาณิชย์จริง ภายหลังการทดสอบโรงไฟฟ้าเสร็จแล้ว (กำหนดเดิม คือ วันที่ 1 มีนาคม 2551) ซึ่งหมายถึงการรับรู้รายได้ของบริษัทฯ ที่เร็วและเพิ่มขึ้นด้วย”
สำหรับนโยบายด้านพลังงานทางเลือกในการผลิตไฟฟ้านั้น นายวิศิษฎ์ กล่าวว่า พลังงานทางเลือกถือเป็นหนึ่งในนโยบายที่ภาครัฐให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เพราะปัจจุบันประเทศไทยพึ่งพิงก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าของประเทศถึงร้อยละ 70 ในขณะที่แหล่งพลังงานลดลงสวนทางกับความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเอ็กโก กรุ๊ป ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เช่นกัน โดยนอกจากจะดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนต่างๆ แล้ว บริษัทฯ ยังได้จัดตั้งคณะกรรมการศึกษาข้อมูลการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าถ่านหินและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต หากคนไทยยอมรับโรงไฟฟ้าทั้ง 2 ประเภทนี้ และเอ็กโก กรุ๊ป ได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ จะได้สามารถนำเสนอสิ่งที่ดีและเหมาะสมกับประเทศไทยได้มากที่สุด
“ในส่วนงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ ซีเอสอาร์ เอ็กโก กรุ๊ป ได้ดำเนินงานครอบคลุมทั้งด้านการกำกับกิจการที่ดี การบริหารจัดการด้านความปลอดภัย ชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการพัฒนาสังคม โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกให้เป็นบริษัทไทยดีเด่นเป็นอันดับ 8 สำหรับการกำกับดูแลกิจการที่ดี จากนิตยสาร Finance Asia สามารถบริหารการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าในเครือ ให้มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุเป็นศูนย์ (Zero Accident) และดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมภายใต้แคมเปญ ‘เอ็กโก กรุ๊ป 15 ปี 15 โครงการ...เทิดพระเกียรติ 80 พรรษา องค์ราชัน’ ประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ โดยได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากพนักงาน พันธมิตรผู้ร่วมดำเนินโครงการ ผู้ถือหุ้น ชุมชน และสื่อมวลชน ซึ่งความมุ่งมั่นในการดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียดังกล่าวอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของเอ็กโกในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมโดดเด่นยิ่งขึ้น และสำหรับใน ปีนี้ เอ็กโก กรุ๊ป จะยังคงดำเนินธุรกิจและขยายการเจริญเติบโต ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมดังเช่นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งเราถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่มีส่วนผลักดันให้ธุรกิจของเอ็กโกเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนเสมอมา” นายวิศิษฎ์กล่าวเสริมในตอนท้าย
ข้อมูลเกี่ยวกับเอ็กโก กรุ๊ป
เอ็กโก กรุ๊ป ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่รายแรกของประเทศไทย (Independent Power Producer - IPP) ดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าในรูปแบบครบวงจร ครอบคลุมธุรกิจผลิตไฟฟ้าและธุรกิจการให้บริการด้านพลังงานในส่วนของการเดินเครื่อง บำรุงรักษา วิศวกรรม และก่อสร้างแก่โรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ
ปัจจุบันมีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมจำนวนทั้งสิ้น 3,509 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และเล็กทั้งในและต่างประเทศรวมทั้งสิ้น 14 แห่ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
ฝ่ายสื่อสารองค์กร รจิตร เข็มศักดิ์สิทธิ์/ วิริยาภรณ์ ตันตินิพันธุ์กุล
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ประเทศไทย
โทร: 0 2998 5135-7 โทร: 0 2627 3501 ต่อ 204, 208
โทรสาร: 0 2955 0958 โทรสาร: 0 2627 3510