กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--กทม.
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (20 ก.พ.51) เวลา 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นราชรัฐโมนาโก : นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการประชุมด้านสิ่งแวดล้อมระดับรัฐมนตรี The Tenth Special Session of the Governing Council/Global Ministerial Environment Forum (Council / Forum) ซึ่งองค์การสิ่งแวดล้อมโลกแห่งสหประชาชาติ หรือ UNEP จัดขึ้น โดยวันแรกเป็นการสรุปแนวทางการรณรงค์ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปขยายผลสู่ภาคเอกชน อุตสาหกรรม ประชาชน และภาคบริการต่างๆ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานด้านสิ่งแวดล้อมสู่ความยั่งยืน สู่สังคมที่ดี และระบบเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากที่สุด
เห็นพ้องใช้หลักธรรมาภิบาลร่วมปกป้องสิ่งแวดล้อมโลก
ทั้งนี้ ที่ประชุมใหญ่วันแรกมีเรื่องหลัก 2 เรื่อง คือ การแถลงรายงาน GEO4 ซึ่งเป็นการรายงานสถานการณ์ของสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปของแต่ละภูมิภาคให้ที่ประชุมได้รับทราบ ทั้งในด้านของปัญหาสภาพอากาศ น้ำเสีย การใช้ที่ดิน และความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ในการกำหนดแนวทางป้องกันปัญหาสภาพแวดล้อม ตลอดจนโรคร้ายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมา ที่สำคัญการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่มีผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปเอเชียที่กำลังเติบโตทั้งการพัฒนาประเทศและเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงต้องเร่งร่วมมือและแก้ไขผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น อาทิ ระบบขนส่งมวลชนเป็นการลดใช้รถยนต์ บริหารจัดการของเสียและขยะอันตราย คัดแยกขยะแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ เป็นต้น
อีกเรื่องหนึ่งคือ การจัดทำแผนระยะกลาง 2010-2013 (พ.ศ.2553-2555) ซึ่งเป็นแผนปฏิบัติการที่ UNEP ได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีทั่วโลก เพื่อเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดสาระสำคัญ 6 เรื่อง ได้แก่ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ (Climate Change) การป้องกันภัยพิบัติ การจัดการระบบนิเวศวิทยาเพื่อลดผลกระทบจากโรคระบาด การบริหารสิ่งแวดล้อมโดยยึดหลักธรรมาภิบาลและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากที่สุด รวมถึงการจัดการของเสียขยะอันตราย และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างยั่งยืน โดยเห็นว่าการพัฒนาและเติบโตทางเศรษฐกิจนั้น การผลิตสินค้าต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ส่งเสริมการลงทุนและส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ส่งเสริมการใช้ระบบการลงทุน การเงิน เพื่อสร้างสังคมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สามารถเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้มากที่สุด
โชว์พลังความร่วมมือแก้ปัญหาโลกร้อนในกรุงเทพฯ
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ UNEP ได้เชิญกรุงเทพมหานครในฐานะตัวแทนเมืองในเอเชียที่มีการขับเคลื่อนและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม มาถ่ายทอดการทำงานผ่านตัวแทนของแต่ละประเทศที่เข้าร่วมประชุมให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานครและ 36 องค์กรภาคีในการจัดทำปฏิญญาลดปัญหาภาวะโลกร้อนระยะ 5 ปี ใน 5 ด้านอย่างจริงจัง ได้แก่ การรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้จักรยานและลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว การใช้พลังงานทางเลือกที่สะอาด การประหยัดไฟ การจัดการของเสียและการคัดแยกขยะ ตลอดจนการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว ขณะเดียวกันกรุงเทพมหานครพยายามสร้างความร่วมมือจากประชาชน ตลอดจนภาคเอกชน และองค์กรต่างๆ ผลักดันเงินทุน ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ให้มีความร่วมมือ ซึ่งสอดคล้องกันแนวทางที่ประเทศพัฒนากำลังดำเนินการ
ผู้ว่าฯอภิรักษ์ขายไอเดีย Green Zone เพื่อคนกรุง
นอกจากนี้กรุงเทพมหานครยังได้รณรงค์และจัดทำแผนปฏิบัติการพื้นที่สีเขียว หรือ Green Zone ย่านใจกลางเมือง นำร่องบริเวณถนนสีลม สาทร สุขุมวิท และถนนวิทยุ เนื่องด้วยเป็นพื้นที่หนาแน่น มีอาคารสำนักงานและประชาชนรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ให้มีความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมทั้งเข้มงวดตรวจสอบคุณภาพอากาศให้ปราศจากฝุ่นละอองและมลพิษ ตลอดจนปลูกต้นไม้ จัดทำสวนแนวตั้งให้ร่มรื่นสวยงาม โดยเชิญภาครัฐและเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีและร่วมหยุดโลกร้อนใส่กรุงเทพฯ ด้วย