กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. ไทย ร่วมกับ ก.ล.ต. กัมพูชา ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนร่วมกัน ทั้งในด้านการจดทะเบียนหลักทรัพย์ข้ามประเทศ (cross listing) การจดทะเบียนพร้อมกันทั้งสองตลาด (dual listing) และการออกและเสนอขายตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt: DR) เพื่อผลักดันให้เกิดการเสนอขายหลักทรัพย์ที่เชื่อมโยงตลาดทุนไทยและกัมพูชาได้สำเร็จเป็นรูปธรรม ซึ่งจะปูทางไปสู่ความร่วมมือด้านตลาดทุนระหว่างกันและส่งเสริมให้ตลาดทุนไทยเป็นฐานของการระดมทุนของภูมิภาค ที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ
ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ณ สำนักงาน ก.ล.ต. ประเทศไทย เมื่อวันอังคารที่ 17 กันยายน 2562 MOU ดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากการที่ ก.ล.ต. ไทยได้ไปเยือน ก.ล.ต. กัมพูชาเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และเป็นการขยายขอบเขตความร่วมมือที่เพิ่มเติมจากฉบับปัจจุบันที่ทั้งสองหน่วยงานได้ลงนามร่วมกันไว้เมื่อปี 2557 โดยครอบคลุมการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างสองหน่วยงาน และการจัดทำแนวทางสำหรับผู้เสนอขายหลักทรัพย์ที่สนใจ (Guidelines) เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของประเทศที่จะเสนอขายหลักทรัพย์ได้ โดยการลงนาม MOU ในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ประธานกรรมการ ก.ล.ต. และกรรมการในคณะกรรมการ ก.ล.ต. ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมด้วยผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศไทย (ภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก) กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เลขาธิการสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการชมรมวาณิชธนกิจ และผู้แทนจากกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย รวมถึงผู้บริหารและคณะจาก ก.ล.ต. กัมพูชา ตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา และภาคธุรกิจจากกัมพูชา
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า "ไทยและกัมพูชามีความเชื่อมโยงระหว่างกันอย่างใกล้ชิดทั้งทางสังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ในระดับ ก.ล.ต. ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีและมีความร่วมมือที่แนบแน่นทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคี การลงนาม MOU ในวันนี้ จึงถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทั้ง ก.ล.ต. ไทย และ ก.ล.ต. กัมพูชา จะได้ร่วมกันผลักดันให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ผู้เสนอขายหลักทรัพย์ทั้งจากกัมพูชาและไทย ต่างสามารถเสนอขายหลักทรัพย์ในอีกประเทศหนึ่งได้ ซึ่งจะช่วยขยายธุรกิจ เสริมสภาพคล่อง และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้กว้างขึ้น โดยคาดหวังว่ากัมพูชาจะเป็นประเทศแรกที่มีบริษัทมาเสนอขายหุ้นต่อผู้ลงทุนไทยและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังจากที่ไทยมีหลักเกณฑ์รองรับการระดมทุนของบริษัทต่างประเทศตั้งแต่ปี 2558 และสำหรับ DR ถือเป็นอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ได้รับความสนใจจากทั้งสองประเทศเช่นกัน ทั้งนี้ การเชื่อมโยงทั้งสองประเทศเข้าด้วยกันจะช่วยพัฒนาโอกาสทางธุรกิจและสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของภูมิภาค"
H.E. Mr. Sou Socheat, Director General of Securities and Exchange Commission of Cambodia (SECC) กล่าวว่า "การลงนาม MOU ในวันนี้ เป็นที่ประจักษ์ถึงความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ยาวนานระหว่าง ก.ล.ต. กัมพูชา และ ก.ล.ต. ไทย โดย MOU ฉบับนี้เป็นการเพิ่มทางเลือกในการระดมทุนให้แก่กิจการทั้งในกัมพูชาและไทยให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ขยายกิจการ และเพิ่มสภาพคล่องจากการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์มากกว่าหนึ่งแห่ง รวมถึงการมีฐานผู้ลงทุนที่กว้างขึ้น นอกจากนี้ เชื่อมั่นว่า MOU ฉบับนี้จะเป็นต้นแบบที่ดีของความร่วมมือระหว่างกันในภูมิภาค เพื่อให้ตลาดทุนในภูมิภาคเติบโตไปด้วยกัน"