กรุงเทพฯ--18 ก.ย.--สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
บูม หรือ นายฐิติกร หลักเพชร นักศึกษาชั้น ปวช.3 สาขาอาหารและโภชนาการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก อายุ 20 ปี ชายหนุ่มร่างท้วมใหญ่มีบุคลิกร่าเริง สนุกสนาน มนุษยสัมพันธ์ดี คุยเก่ง เข้ากับคนง่าย เล่าถึงเรื่องราวชีวิตกว่าจะมาทำธุรกิจ "บูม" ซาลาเปาว่า ตนเกิดและเติบโตที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พออายุได้ 2 ขวบ พ่อแม่ก็แยกทางกัน โดยแม่เป็นคนเลี้ยงดู ต่อมาแม่ไปทำงานที่จังหวัดชลบุรี ตายายจึงต้องเป็นคนเลี้ยง ดูแทน พออายุได้ 7 ขวบ ยายเสียชีวิต ต่อมาอายุ 13 ปี ตาเสียชีวิต ทำให้ต้องย้ายไปอยู่กับป้า โดยระหว่างที่ไปอยู่กับป้า ก็ช่วยงานป้าทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการทำไร่ทำนา ทำงานบ้าน จนจบม.3 ก็ตัดสินใจออกมาเผชิญชีวิตหาเลี้ยงชีพด้วยตนเอง โดยย้ายกลับมาอาศัยที่บ้านเดิมของตากับยาย และรับจ้างทำงานทั่วไปเพื่อหาเลี้ยงชีพ ไม่ว่าจะเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหาร รับเลี่ยมพระ ทำงานทุกอย่างที่พอจะทำได้อยู่ 1 ปี จากนั้นจึงตัดสินใจไปเรียนสาขาวิชา สัตวศาสตร์ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพิจิตร เพราะได้ยินมาว่า เรียนฟรี กินฟรี และอยู่ฟรี โดยเรียนเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ ตอนหมู ตอนวัว ประมง เรียนไปได้ 2 ปีกว่าใกล้จะจบแล้วต้องไปฝึกงาน ก็เริ่มกลับมาถามตนเองว่า เรียนด้านนี้ มันใช่ตัวตนของเราหรือเปล่า รู้สึกว่าเรียนแล้วดูอะไรมันก็ยากไปหมด ผลการเรียนก็ไม่ค่อยดีเป็นลำดับท้ายๆ ของห้อง รู้สึกเหนื่อย ท้อแท้ หมดกำลังใจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าเวลาได้ทำอาหาร ทำขนม แม้งานจะหนัก เหนื่อย ต้องอยู่หน้าเตาตลอด แต่ทำไมมันมีความสุข สนุกจังเลย ประกอบกับช่วงนั้นเพื่อนๆ หลายคนก็เรียนใกล้ จะจบในสาขาอาหารและโภชนาการ จึงเห็นว่าเรียนแล้วดี เลยตัดสินใจลาออกจากวิทยาลัยเกษตรแล้วมาเลือกเรียนใหม่ในสาขาอาหารและโภชนาการที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก โดยได้เรียนเนื้อหาหลักสูตรเกี่ยวกับเบเกอรี่เบื้องต้น เบเกอรี่เพื่อการค้า อาหารไทยเบื้องต้น ขนมไทยเพื่อการค้า อาหารครอบครัว การตัดตกแต่งใบตองและแกะสลัก การออกแบบผลิตภัณฑ์สินค้า โภชนาการอาหาร และอาหารนานาชาติ เป็นต้น ซึ่งยิ่งเรียนก็ยิ่งรู้สึกว่ามันใช่ ทำให้อยากตื่นเช้ามาเรียนทุกๆ วัน รู้สึกสนุก มีความสุข และตื่นเต้นกับการได้คิดค้นหาสูตรอาหารและขนมใหม่ๆ อยู่เสมอ รู้สึกว่าเรียนง่าย เข้าใจทุกอย่างที่อาจารย์สอน โดยในช่วงปวช.1 ก็ยังคงรับจ้างทั่วไปหาเงินส่งตัวเองเรียน พอขึ้นปวช.2 เริ่มมีปัญหาไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม เพราะเรียนมากขึ้น ไม่มีเวลาไปทำงาน แต่ก็ยังคงมาเรียนทุกวันไม่มีขาดเรียน จนครูพรทิพย์ วงคำสอน ครูที่ปรึกษาสาขาวิชาอาหารและโภชนาการทราบเรื่องว่าตนไม่มีเงินจ่าย ค่าเทอม จึงให้ยืมเงิน 2,000 บาท เพื่อมาจ่ายเป็นค่าเทอม ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้น ครูจินดารัตน์ นนท์ทราทร หัวหน้าสาขาอาหารและโภชนาการ ทราบว่าตนมีปัญหาเรื่องการเงิน จึงไปเล่าเรื่องราวให้ท่านผอ.นิคม เหลี่ยมจุ้ย ผอ.วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลกทราบ เพื่อพิจารณาอนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้ได้เรียนต่อ เนื่องจากตนได้ค้างชำระค่าเทอมนานจนไม่มีชื่ออยู่ในระบบของวิทยาลัย พร้อมกับได้ชักชวนให้มาช่วยอาจารย์ทำขนมไทย เบเกอรี่ และ จัดอาหารว่างขาย ทำให้ตนได้เพิ่มพูนความรู้ประสบการณ์และได้รับเงินเป็นรายได้หาเลี้ยงชีพด้วย
จากประสบการณ์ฝึกงานช่วยงานอาจารย์ ทำให้ได้ลองผิดลองถูก จนคิดค้นสูตรซาลาเปาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะแตกต่างจากซาลาเปาในท้องตลาดได้สำเร็จ ซึ่งในระหว่างนั้น ครูหลายท่านได้เห็นศักยภาพของ "บูม" ซาลาเปาที่มีความแตกต่างจากซาลาเปาท้องตลาด จึงได้แนะนำให้เขียนแผนธุรกิจส่งในนามของศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา โดยวิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลกได้ให้เงินลงทุนสนับสนุน จำนวน 30,000 บาท เพื่อซื้ออุปกรณ์และวัตถุดิบในการทำซาลาเปา หากนักศึกษาดำเนินธุรกิจจนสามารถคืนต้นทุนที่ยืมไปได้ จะต้องนำเงินมาคืนเพื่อเป็นเงินลงทุนให้กับนักศึกษารุ่นน้องในปีต่อไป โดยผลกำไรที่ "บูม" ซาลาเปาได้รับ ถือเป็นรายได้ของนักศึกษา ซึ่งแผนธุรกิจ "บูม"ซาลาเปา ได้ผ่านการคัดเลือกเป็น1ใน 20 ทีมธุรกิจดีเด่นในโครงการของอาชีวศึกษาที่ส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระในผู้เรียนอาชีวศึกษาที่จะจัดแสดงแผนธุรกิจในเดือนพฤศจิกายน 2562
นายฐิติกร เล่าต่อไปอีกว่า "บูม"ซาลาเปา ใส่ใจในทุกขั้นตอนของการผลิต คัดสรรวัตถุดิบอย่างดีที่มี ความสด สะอาด ไม่ใส่สารกันบูด ตั้งแต่แป้งซาลาเปา โดยจะใช้แป้งข้าวสาลี ซึ่งจะให้รสสัมผัสที่เหนียว นุ่ม หอม จัดเต็มด้วยไส้เน้น ๆ ครบเครื่อง รสชาติอร่อยกลมกล่อม ฟูน่ากิน ส่วนไส้ของซาลาเปามีให้เลือกหลากหลายซึ่งมีไส้ที่แตกต่างจากในท้องตลาด อาทิ ไส้คั่วกลิ้งแกงใต้ ไส้พะโล้ ไส้หน่อไม้โบราณ ไส้หม้อแกงเผือก ไส้งาดำ ไส้โอนีแปะก๊วย ไส้เห็ดหอมหมูสับ และไส้ฮ่องเต้หมูสับปูอัดเบนโตะไข่ต้ม เป็นต้น โดยราคาเริ่มต้นลูกละ 15-25 บาท นอกจากนี้ ยังเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า สายสุขภาพ โดยใช้แป้งไรซ์เบอร์รี่ แป้งผสมงาดำ และ แป้งลูกเดือย เพื่อให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ และยังเพิ่มรูปแบบลวดลายให้กับซาลาเปา เช่น รูปกุหลาบ รูปหน้าหมู และรูปผลไม้ต่าง ๆ เช่น รูปทุเรียน อีกด้วย ในช่วงแรกทดสอบตลาดได้นำซาลาเปาที่นึ่งสดใหม่ทำวันต่อวัน ไปวางขายในมหาวิทยาลัยนเรศวรในช่วงเช้า โดยการแพ็คใส่ถุงละ 1 ลูก ขายในราคา 10 บาท ผลตอบรับดีมาก ลูกค้าบอกกันปากต่อปากว่า "บูม"ซาลาเปา มีแป้งเหนียว นุ่ม หอม ไส้เน้น ๆ ครบเครื่อง รสชาติอร่อยกลมกล่อม แถมราคาไม่แพง ต่อมาพ่อค้าแม่ค้าในมหาวิทยาลัยนเรศวรและพื้นที่ใกล้เคียงในอ.เมือง จ.พิษณุโลกสนใจติดต่อ ขอมารับซาลาเปาไปขายต่อ และบางวันก็มีลูกค้ามาสั่งซื้อเพื่อจัดทำเป็นอาหารว่างกว่า 1,000 ลูก สร้างยอดขายกว่าหลักหมื่นบาทต่อวัน ทำให้ปัจจุบัน "บูม" ซาลาเปา มียอดสั่งซื้อไม่ต่ำกว่า 100 ลูกเป็นประจำทุกวัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าในจ.พิษณุโลก โดยในอนาคตกำลังวางแผนที่จะเพิ่มฐานลูกค้าให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยกำลังไปศึกษาวิธีการถนอมอาหารซึ่งจะสามารถเก็บซาลาเปาไว้ในอุณหภูมิห้องปกติได้นานนับเดือน ทำให้สามารถส่งซาลาเปาไปขายได้ทั่วประเทศหรือสามารถส่งออกขายต่างประเทศเพื่อเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย
"ทั้งนี้ "บูม" ซาลาเปา สามารถสั่งทำได้ตามความต้องการของลูกค้าตั้งแต่การเลือกใช้แป้ง ได้แก่ แป้งธรรมดา แป้งไรซ์เบอร์รี่ แป้งผสมงาดำ หรือแป้งลูกเดือย ไส้ของซาลาเปา ได้แก่ ไส้คั่วกลิ้งแกงใต้ ไส้พะโล้ ไส้หน่อไม้โบราณ ไส้หม้อแกงเผือก ไส้งาดำ ไส้โอนี่แปะก๊วย ไส้หมูสับไข่เค็ม ไส้หมูแดง ไส้ถั่วแดง ไส้ครีมคัสตาร์ด ไส้เห็ดหอมหมูสับ และไส้ฮ่องเต้หมูสับปูอัดเบนโตะไข่ต้ม โดยราคาขายปลีก เริ่มต้นที่ลูกละ15 - 25 บาท หากซื้อ 100 ลูกขึ้นไป ขายในราคาส่ง เริ่มต้นที่ลูกละ 12 บาท หากต้องการให้ซาลาเปามีรูปแบบลวดลายแปลกใหม่ คิดเพิ่มอีกลูกละ 3 – 5 บาท หากสนใจสั่งซื้อ ติดต่อได้ที่ โทร.099-241-8872 หรือทางเฟซบุ๊กที่เพจ Boom ซาลาเปา หรือไลน์ไอดี : 099-241-8872 หรือสามารถแวะมานั่งลองชิมความอร่อยกันได้ที่ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ซึ่งเปิดขายอยู่หน้าวิทยาลัยฯ เลยครับ สนใจทักมานะครับ"