กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย
เครือข่ายเยาวชนร่วมกันจัดกิจกรรมต้อนรับวันเยาวชนแห่งชาติ แถลงผลสำรวจความคิดเห็นของเด็กและเยาวชนทั่วประเทศกว่า 4,600 คน เกี่ยวกับการพนันออนไลน์ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน เตรียมขับเคลื่อนรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักถึงภัยร้ายใกล้ตัวที่เยาวชนเข้าถึงได้ง่าย และมีการพนันให้เลือกเล่นทุกรูปแบบ ทุกที่ ทุกเวลา พร้อมวอนทุกภาคส่วนร่วมช่วยกันดูแลอนาคตของชาติให้มีคุณภาพ เผยข้อมูลคนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในการชักจูงให้เล่นพนัน คือเพื่อนสนิท ร้อยละ 40.39 รองลงมาคือพ่อแม่และผู้ใหญ่ในบ้าน ร้อยละ 30.53
แกนนำเยาวชน 5 เครือข่าย ได้แก่ สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย (สดย.ท.), สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.), เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน, AIESEC หรือสมาคมไอเซคพัฒนาผู้นำนักศึกษาระหว่างประเทศ, สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ รวมพลังจัดกิจกรรมเนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2562 มุ่งนำเสนอปัญหาและผลกระทบจากการพนันออนไลน์ โดยได้รับการสนับสนุนจากศูนย์การค้าสยามพารากอน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โครงการยูรีพอร์ต ประเทศไทย (U-Report) และมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กิจกรรมหลักเป็นการแถลงผลสำรวจความคิดเห็นของเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ ที่มีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามรวมทั้งสิ้น 4,677 คน จากความร่วมมือของ สดย.ท., ยท. และโครงการยูรีพอร์ต (U-Report) ซึ่งมีมูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา และเครือข่ายเยาวชนอาสา ร่วมเป็นสมาชิกด้วย
นางสาวสุภาพิชญ์ ไชยดิษฐ์ ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "การสำรวจความคิดเห็นในครั้งนี้จัดทำขึ้นเพื่อสะท้อนสถานการณ์เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะปัญหาจากการพนันออนไลน์ ซึ่งดูเหมือนว่าสังคมไทยยังไม่มีความตระหนักมากเท่าที่ควร เนื่องจากคนส่วนใหญ่มองว่าการพนันเป็นเรื่องปกติ ที่ไม่ส่งผลกระทบในด้านต่าง ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การพนันเป็นต้นตอของปัญหามากมาย เช่น ปัญหาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาครอบครัว ฯลฯ โดยข้อมูลที่สำคัญพบว่า คนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในการชักจูงให้เด็กและเยาวชนเล่นพนันคือเพื่อนสนิท ร้อยละ 40.39 รองลงมาคือพ่อแม่และผู้ใหญ่ในบ้าน ร้อยละ 30.53 ปัจจุบันมีเด็กและเยาวชนเข้าสู่วงจรการพนันกว่าร้อยละ 42.38 โดยการพนันออนไลน์ที่นิยมเล่นเป็นลำดับแรกคือไพ่ประเภทต่างๆ รองลงมาคือเกม/สลอต และลำดับที่ 3 เล่นพนันฟุตบอลหรือพนันกีฬา การโฆษณาชวนพนันในสื่อออนไลน์ที่ดึงดูดให้เด็กและเยาวชนตามไปเล่นพนันมากที่สุดคือเฟสบุ๊ก ร้อยละ 40.46 รองลงมาคือเว็บไซด์ดูหนังฟังเพลง ร้อยละ 28.54"
ด้าน นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า "ปัจจุบันเป็นยุคที่สื่อดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในวิถีชีวิตของเราอย่างมาก การพนันออนไลน์จึงเป็นภัยร้ายใกล้ตัวเด็กและเยาวชน เพราะสามารถเข้าถึงง่าย ไว สะดวก ตรวจจับได้ยาก เปิดโอกาสให้เด็กเล่นได้โดยไม่จำกัดอายุ มีการพนันให้เลือกเล่นได้ทุกรูปแบบ ทุกที่ ทุกเวลา ธุรกิจพนันออนไลน์นอกจากหากินอย่างผิดกฎหมายแล้ว ยังใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่ดึงดูดและล่อลวงให้เด็กและเยาวชนสนใจเข้าไปลองเล่น แต่มีเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ซับซ้อนจนต้องกลายเป็นเหยื่อที่ 'ติดกับดัก' อยู่ในวงจรการพนัน โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบโดยรวมต่อคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชน ที่ส่งผลต่อสังคมและประเทศชาติ การพนันออนไลน์จึงเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันป้องกันและแก้ไข ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของเยาวชน และร่วมกันสนับสนุนการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ในการแสดงออกถึงเจตนารมณ์ที่จะร่วมขับเคลื่อนเพื่อลดปัญหาจากการพนันในสังคมไทยต่อไป"
ขณะที่ นายณพบดี กุลมงคล ประธานฝ่ายบริหาร สมาคมไอเซคพัฒนาผู้นำนักศึกษาระหว่างประเทศ ซึ่งมีเครือข่ายเยาวชนนานาชาติกว่า 120 ประเทศและเขตการปกครอง กล่าวว่า "ต่างประเทศส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องการพนันออนไลน์ในเด็กและเยาวชนเป็นปัญหาระดับชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอังกฤษ จีน อินโดนีเซีย และเวียดนาม ที่มีทั้งกฎหมายและมาตรการต่าง ๆ อย่างเข้มงวด มีระบบการตรวจสอบที่เข้มแข็งจริงจัง และมีบทลงโทษที่รุนแรงสำหรับธุรกิจการพนันออนไลน์เปิดให้เยาวชนเข้าไปเล่น มีมาตรการหลายระดับสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองและสังคมในการดูแลเยาวชน ด้วยเครื่องมือและระบบที่ช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการพนันในรูปแบบต่าง ๆ เสริมทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงกลไกของการพนันออนไลน์ นอกจากนี้ เครือข่ายของไอเซคฯ ในแต่ละประเทศ มีการจัดโครงการรับอาสาสมัครเพื่อจัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันปัญหาและลดผลกระทบ ตลอดจนจัดการศึกษาอบรมให้มีความรู้เท่าทัน โดยมุ่งเน้นที่ชุมชนและเยาวชนเป็นหลัก"
สอดคล้องกับแนวทางการขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศไทย ซึ่ง นายณัฐพงศ์ สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน ให้ข้อมูลว่า "ทางเครือข่ายและภาคีมีข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมต่อหน่วยงานของภาครัฐมาโดยตลอด เช่น ขอให้ตั้ง 'คณะกรรมการลดผลกระทบจากการพนัน' โดยมีตัวแทนจากทุกภาคส่วน เพื่อเร่งจัดทำแผนงานและมาตรการป้องกันเด็กและเยาวชนจากการพนัน โดยเฉพาะการพนันผ่านช่องทางออนไลน์ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ตลอดจนส่งเสริมการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปัญหาและผลกระทบต่าง ๆ รวมทั้งเผยแพร่ความรู้และทัศนคติที่ถูกต้อง พร้อมทั้งสร้างการรู้เท่าทันการพนันออนไลน์ นอกจากนี้ ยังได้ขอให้เร่งปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพนันให้มีความทันสมัย ทันต่อสถานการณ์ และมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง ซึ่งยังคงรอการตอบสนองและหวังว่าจะบังเกิดผลที่ชัดเจนได้ในรัฐบาลนี้"
นางสาวชลลดา บุญประเสริฐ รองประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ให้ความเห็นในฐานะตัวแทนขององค์การระดับโลกที่มีสมาชิกเป็นผู้หญิงใน 145 ประเทศ ว่า "มีข้อมูลจากงานวิจัยเชิงคุณภาพหลายชิ้นระบุว่า เยาวชนจำนวนมากเลิกเล่นการพนัน ได้เพราะคุณแม่หรือคนรักขอร้องให้เลิก จึงเห็นได้ชัดว่าผู้หญิงมีบทบาทสำคัญในการช่วยผลักดันเรื่องนี้ ด้วยความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ พูดคุยกันด้วยหลักเหตุผลเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยสมาคมฯ มีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามนโยบายที่ได้รับจากองค์การโลก จึงได้จัดทำโครงการและกิจกรรมดี ๆ เพื่อให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ที่เข้าถึงง่ายเพียงปลายนิ้ว เช่น โครงการแผนที่สร้างเสริมสุขภาพเพื่อเพิ่มพื้นที่ดี ลดพื้นที่เสี่ยงรอบสถานศึกษา, โครงการสอนน้องว่ายน้ำ, โครงการกินเปลี่ยนโลก : กินตามแม่ เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เหล่านี้ รวมถึงการร่วมเป็นเครือข่ายในการขับเคลื่อนรณรงค์กับภาคีอื่นๆ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันปัญหาและลดผลกระทบจากการพนันออนไลน์ได้เช่นกัน"
เครือข่ายเยาวชนที่ร่วมกันจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้เตรียมจัดทำข้อเสนอต่อหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ด้วยความมุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนร่วมช่วยกันดูแลเยาวชนให้มีคุณภาพ โดยส่งเสริมให้มีกฎหมายและมาตรการต่าง ๆ ที่เหมาะสม เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากการพนันออนไลน์ ตลอดจนสนับสนุนกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาศักยภาพของเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติต่อไป