กรุงเทพฯ--24 ก.ย.--โอกิลวี่ (ประเทศไทย)
คุณวัลลภา ไตรโสรัส (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC บริษัทพัฒนาและบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในเครือ TCC Group ลงนามในสัญญาแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายสำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก ซึ่งจะเปิดจองซื้อได้ระหว่างวันที่ 25 – 27 กันยายน 2562 ที่จำนวนไม่เกิน 8,000 ล้านหุ้น โดยแบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มจำนวนไม่เกิน 6,957 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 22.47 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) และอาจมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินจำนวนไม่เกิน 1,043 ล้านหุ้น (Overallotment Option หรือ Greenshoe) พร้อมกำหนดราคาเสนอขายหุ้นที่ 6.00 บาทต่อหุ้น พร้อมกันนี้ ยังได้แต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 8 บริษัท ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท หลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท หลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
โดยได้มีนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศและในต่างประเทศประเภท Cornerstone Investor จำนวน 13 ราย ได้แก่ บลจ.บัวหลวง บลจ.เอ็มเอฟซี บลจ.กสิกรไทย บลจ.ไทยพาณิชย์ บลจ.ทิสโก้ บลจ.กรุงไทย บลจ.วรรณ บลจ.ธนชาต บลจ.อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด (ประเทศไทย) บมจ.เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต GIC Private Limited Maitri Asset Management และ Affin Hwang Asset Management Berhad ได้ตกลงจองซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ที่เสนอขายครั้งนี้ เป็นจำนวนรวม 3,454,000,000 หุ้น หรือประมาณร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้ (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) ที่ราคา 6.00 บาทต่อหุ้น
การระดมทุนครั้งนี้ของ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) มีวัตถุประสงค์เพื่อต่อยอดความสำเร็จในการผลักดันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรในประเทศไทย ในกลุ่มโรงแรมและการบริการ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ เพื่อเป็นเงินทุนในการเข้าซื้อกิจการที่เป็นเจ้าของของทรัพย์สินตามสัญญาซื้อขายหุ้นปี 2562 ซึ่งจะเป็นโครงการใหม่ ๆ ที่เข้ามาเสริมในพอร์ตฟอลิโอของ AWC หลัง IPO รวมทั้งนำไปลงทุนพัฒนา และปรับปรุงทรัพย์สินของบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนให้กับบริษัทและผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น นอกจากนี้บางส่วนจะใช้ในการชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยส่วนใหญ่ AWC เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน (Freehold) ถึง 90% เพื่อก้าวสู่การเป็นแบรนด์อสังหาฯ ชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย โดยเตรียมเข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 10 ตุลาคม 2562
ในภาพ (จากซ้ายไปขวา):
- คุณพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
- คุณพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- คุณวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน)
- คุณวีณา เลิศนิมิตร กรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด
- คุณอนุวัฒน์ ร่วมสุข กรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน)
หมายเหตุ: เอกสารฉบับนี้ได้ถูกจัดเตรียมขึ้นโดยบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") สำหรับเพื่อการให้สัมภาษณ์โดยเฉพาะเจาะจงเท่านั้น เอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย หรือการเชิญชวนให้ซื้อหรือการแนะนำหลักทรัพย์ใดๆ โดยบริษัทฯ
ผู้ลงทุนควรเข้าใจว่า การได้มาซึ่งทรัพย์สินดังต่อไปนี้ ได้แก่ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส กรุงเทพ สาทร, โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์, โรงแรม ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช, โรงแรม หัวหิน แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, แกรนด์โซเล่, โครงการหัวหิน บีชฟรอนท์, อิมพีเรียลแม่ปิง, โรงแรมบันยันทรี จอมเทียน พัทยา, พัทยา มิกซ์ยูส รีเทล แอนด์ โฮเทล ดีเวลล็อปเมนต์, โรงแรมเจริญกรุง 93, โรงแรม อีสต์ เอเชีย และ พรพิงค์ ทาวเวอร์ (รวมเรียกว่า "ทรัพย์สินกลุ่ม 3") ภายใต้สัญญาซื้อขายหุ้นของทรัพย์สินกลุ่ม 3 ลงวันที่ 1 มีนาคม 2562 ("สัญญาซื้อขายหุ้นปี 2562") อาจเป็นการได้มาซึ่งทรัพย์สินบางส่วนหรืออาจไม่ได้มาซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดหากมีเหตุการณ์บางเหตุการณ์เกิดขึ้น เช่น การละเมิดคำรับรองและคำรับประกันของทรัพย์สินใดๆ ภายใต้สัญญาซื้อขายหุ้นปี 2562 ซึ่งรวมถึงการละเมิดคำรับรองและคำรับประกันเกี่ยวกับใบอนุญาตและการอนุญาตที่เป็นสาระสำคัญที่จำเป็นต้องมีสำหรับการดำเนินธุรกิจ หรือเหตุการณ์อื่นใดซึ่งรวมถึงสถานะทางการเงินของผู้ขาย นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจไม่สามารถลงทุนหรือพัฒนาโครงการเกทเวย์ เอกมัย และ/หรือโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ส่วนต่อขยาย ดังที่ระบุไว้ในบันทึกข้อตกลง 2 ฉบับ ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 หากคู่สัญญาไม่สามารถเข้าทำสัญญาในการลงทุนหรือพัฒนาโครงการ 2 โครงการดังกล่าวได้ภายในปี 2563