กรุงเทพฯ--24 ก.ย.--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผย ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนสิงหาคม 2562 หดตัวลงร้อยละ 4.4 เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับผลกระทบจากแนวโน้มเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ชะลอตัวต่อเนื่อง
นายอดิทัต วะสีนนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนสิงหาคม 2562 หดตัวร้อยละ 4.4 เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของ
ปีก่อน โดยอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนี MPI เดือนสิงหาคม 2562 ได้แก่ รถยนต์และเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ เหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐาน และน้ำตาล สาเหตุหลักมาจากผลกระทบจากเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ชะลอตัวต่อเนื่องและคำสั่งซื้อจากตลาดต่างประเทศชะลอตัวลง ส่งผลให้การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ) หดตัวลงร้อยละ 9.2 เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนอุตสาหกรรมที่การผลิตยังขยายตัวดี ได้แก่ Hard disk drive อาหารแช่แข็ง น้ำดื่ม สุรา และน้ำมันปาล์ม
อุตสาหกรรมหลักที่ยังคงขยายตัวในเดือนสิงหาคม ได้แก่
Hard disk drive ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.66 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผู้ผลิตบางรายได้รับคำสั่งผลิตเพิ่มขึ้นหลังจากการปิดฐานการผลิตที่ประเทศมาเลเซียตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 รวมถึงการลงทุนในเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และการพัฒนา Hard disk ความจุสูงที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
อาหารทะเลแช่แข็ง ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.04 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลิตภัณฑ์ปลา กุ้ง และปลาหมึกแช่แข็ง ที่ได้รับคำสั่งซื้อจากตลาดในประเทศ และผู้ผลิตได้ขยายตลาดไปสู่ตลาดการค้าขายปลีกสมัยใหม่ และร้านอาหารขนาดใหญ่ รวมถึงเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายในตลาดออนไลน์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานมากขึ้น
น้ำดื่ม ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.94 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยขยายตัวเพิ่มขึ้นในเกือบทุกผลิตภัณฑ์ ยกเว้นน้ำแร่ เนื่องจากในปีก่อนผู้ผลิตบางรายปิดซ่อมบำรุงใหญ่ ประกอบกับรัฐเตรียมขึ้นภาษีความหวานรอบที่ 2 จะบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 รวมถึงกระแสการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น
สุรา ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.16 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลิตภัณฑ์สุราขาวและสุราผสม เนื่องจากผู้ประกอบการได้ทำการตลาดโดยได้ปรับภาพลักษณ์ของสินค้าและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งมีการตอบรับที่ดีทำให้มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น รวมถึงการวางแผนขยายตลาดไปต่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกสุราผสมไปยังประเทศเวียดนาม พม่า ฟิลิปปินส์ และมีแผนจะขยายตลาดไปประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
น้ำมันปาล์ม ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.89 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มดิบ ที่สภาพภูมิอากาศส่งผลให้ต้นปาล์มออกดอกและติดผลเป็นจำนวนมาก เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวผลปาล์มที่มีความเข้มข้นของน้ำมันเพิ่มขึ้น ทำให้ผลิตน้ำมันปาล์มดิบได้จำนวนมาก รวมถึงนโยบายภาครัฐที่ได้สนับสนุนให้มีการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วประเภท B7, B10, B20 และ B100 และการผลิตไฟฟ้า
ที่มา : กองสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ข้อมูล ณ วันที่ 24 กันยายน 2562