กรุงเทพฯ--26 ก.ย.--ธนาคารกสิกรไทย
บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล (บีคอน วีซี) บริษัทเงินร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทย ร่วมลงทุนในกองทุน NYCA Partners ซึ่งได้รับเลือกเป็นหนึ่งในสามกองทุนที่ลงทุนในบริษัทฟินเทคมากที่สุดในโลกจาก CB Insights ในปี 2561 โดยกองทุนนี้ได้รับเงินลงทุนทั้งสิ้น 210 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากนักลงทุนสถาบันจำนวน 21 แห่งและผู้นำด้านฟินเทคและการเงินจากทั่วโลก
กองทุน NYCA ตั้งขึ้นในปี 2014 โดยนายฮานส์ มอรริส อดีตประธานบริษัทวีซ่า โดย NYCA เน้นลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเงินในหลายสาขา เช่น ด้านการธนาคาร ด้านระบบชำระเงิน ด้านการลงทุน และด้านประกัน นอกจากการให้เงินลงทุนแก่บริษัทสตาร์ทอัพแล้ว NYCA มุ่งเน้นทำงานร่วมกับบริษัทที่เข้าลงทุน โดยตลอดช่วงห้าปีที่ผ่านมา NYCA ได้คัดเลือกนักลงทุนในกองทุนถึง 55 คนมาเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทที่ NYCA เข้าลงทุน ทั้งการให้ความรู้เชิงลึกด้านระบบการเงินและด้านเทคโนโลยีที่จะช่วยให้บริษัทเหล่านี้ประสบความสำเร็จและด้านการเข้าลงทุน
นายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการบีคอน วีซี เปิดเผยว่า การลงทุนครั้งนี้นับเป็นการลงทุนนอกอาเซียนครั้งแรกของบีคอน วีซี โดย NYCA เป็นกองทุนที่บริหารโดยอดีตผู้บริหารของสถาบันการเงินในสหรัฐฯ หลายแห่ง อาทิ เจพี มอร์แกน, ซิตี้แบงก์, โกลด์แมน แซคส์, กองทุนแบล็คร๊อค และวีซ่า เป็นต้น เราประทับใจในความสามารถของทีมบริหารของ NYCA ในการนำประสบการณ์จากการทำงานในสถาบันการเงินชั้นนำเหล่านี้มาคัดเลือกและลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพยุคใหม่ เพื่อนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการดำเนินงานของสถาบันการเงินได้เป็นอย่างดี ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้จะทำให้บีคอน วีซีสามารถนำนวัตกรรมจากบริษัทฟินเทคทั่วโลกมาสู่ประเทศไทย รวมไปถึงนำมุมมองจากนักลงทุนและที่ปรึกษาของ NYCA ซึ่งล้วนเป็นผู้นำด้านฟินเทคระดับโลกมาสู่ธนาคารกสิกรไทย และนำความรู้ด้านการบริหารสตาร์ทอัพจาก NYCA มาสู่บีคอน วีซีอีกด้วย
นายฮานส์ มอรริส กรรมการผู้จัดการ NYCA Partners เปิดเผยว่า NYCA มีความยินดีมากที่จะได้ร่วมงานกับ บีคอน วีซีในการนำบริษัทฟินเทคชั้นนำจากทั่วโลกมาสู่ประเทศไทย NYCA มีประสบการณ์การลงทุนและการทำงานร่วมกับสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพที่จะปฏิวัติวงการการเงิน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่อยู่ในช่วงก่อตั้งใหม่หรือบริษัทที่อยู่ในช่วงขยายตลาด โดย NYCA มุ่งสร้างเครือข่ายที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกันระหว่างนักลงทุน ที่ปรึกษา และเจ้าของกิจการสตาร์ทอัพ ซึ่งความสัมพันธ์นี้จะทำให้เราสามารถร่วมกันสร้างสรรค์บริการทางการเงินรูปแบบใหม่ให้แก่ทุกคน
การลงทุนใน NYCA นับเป็นการลงทุนในกองทุนครั้งที่ 4 ของบีคอน วีซี โดยก่อนหน้านี้ได้ลงทุนในกองทุน 3 แห่ง ได้แก่ 1) DymonAsia กองทุนที่ลงทุนในฟินเทคสตาร์ทอัพของอาเซียน 2) Vertex Ventures กองทุนลงทุนในสตาร์ทอัพที่กำลังขยายตลาด และ 3) Stormbreaker Venture กองทุนที่ลงทุนในสตาร์ทอัพด้านการศึกษาของไทย นอกจากนี้ บีคอน วีซีได้ลงทุนโดยตรงในสตาร์ทอัพอีกกว่า 9 บริษัท เช่น บริษัท Aspire Financial Technologies ผู้ให้บริการแพลทฟอร์มการเงินสำหรับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี บริษัท InstaReM ผู้ให้ให้บริการโอนเงินข้ามประเทศ และบริษัท Grab ผู้ให้บริการเรียกรถและบริการทางการเงินชั้นนำของอาเซียน
เกี่ยวกับบริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด
Beacon VC (http://beaconvc.fund/) ตั้งขึ้นในปี 2560 โดยทำหน้าที่เป็นกองทุนร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทย Beacon VC ลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อต่อยอดการดำเนินงานเชิงเทคโนโลยีของธนาคาร โดยเน้นลงทุนในบริษัทเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นมาใหม่ (Early stage) หรือบริษัทที่อยู่ในช่วงขยายธุรกิจ (Growth stage) โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเทคโนโลยีด้านการเงินเท่านั้น แต่รวมถึงเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค (Consumer technology) และเทคโนโลยีสำหรับองค์กร (Enterprise technology) ทั้งนี้ กองทุน Beacon VC มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 135 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และได้ลงทุนในหลายบริษัท เช่น Aspire Financial Technologies, InstaReM, และ Grab