กรุงเทพฯ--26 ก.ย.--กรมโยธาธิการและผังเมือง
กรมโยธาธิการและผังเมือง จัดงานแถลงข่าวผลงานกรมโยธาธิการและผังเมือง 2556-2562 "7 ปีแห่งความมุ่งมั่น สร้างบ้าน พัฒนาเมือง" เผยถึงผลงานความสำเร็จภายใต้ยุทธศาตร์ 4 ด้าน คือการผังเมือง การพัฒนาเมือง การอาคาร และการบริการด้านช่าง สู่การพัฒนาโครงการต่างๆ ตลอดระยะเวลา 7 ปี ที่ผ่านมา เพื่อตอบสนองความต้องการของประเทศโดยรวมและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความสุข ได้อยู่ในเมืองที่น่าอยู่ สวยงาม ปลอดภัย อย่างยั่งยืน
นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 7 ปีที่ผ่านมา กรมได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ มากมายภายใต้ยุทธศาสตร์ ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ด้านการผังเมือง ด้านการพัฒนาเมือง ด้านการอาคาร และด้านการบริการด้านช่าง โดยมีผลงานที่สำคัญได้แก่ การยกร่างพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ.2562 การวางและจัดทำผังเมือง ครบทั้ง 76 จังหวัด การวางผังเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โครงการวางผังการระบายน้ำจังหวัดในลุ่มน้ำโครงการพัฒนาตามผังเมืองเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่และสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยว โครงการจัดทำระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชน ระบบระบายน้ำ โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำในประเทศ เขื่อนริมทะเลทั่วประเทศ และเขื่อนริมแม่น้ำชายแดนระหว่างประเทศ โครงการพัฒนาต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ งานวิเคราะห์วิจัยและทดสอบวัสดุ การกำจัดผักตบชวาอีกทั้งงานก่อสร้างพลับพลาพิธีสำหรับพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เพื่อประทับในพิธีต่างๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ กรมยังได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลมอบหมายภารกิจที่สำคัญของประเทศหลายภารกิจและเป็นภารกิจที่เรารู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจ เช่น การก่อสร้างพระเมรุมาศจำลอง รวมถึงจิตกาธาน และซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และในทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวม 84 แห่งเพื่อใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ รัชกาลที่ 9 ซึ่งมีรูปแบบที่สวยงาม สมพระเกียรติและภารกิจการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ในการวางแผนป้องกันไม่ให้มวลน้ำขนาดใหญ่ไหลเข้าสู่กรุงเทพฯ ชั้นใน ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ เป็นต้น ตลอดจนปรับปรุงระบบการทำงานเพื่อแก้ปัญหาของประเทศ สนองนโยบายของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี ทำให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นที่ยอมรับของหน่วยงานภายนอก และเป็นองค์กรที่สำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล
"ภายใต้ยุทธศาสตร์และการดำเนินงานของกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ปฏิบัติภารกิจขานรับนโยบายเชิงรุกมาอย่างต่อเนื่อง โดยยุทธศาสตร์ด้านการผังเมือง เช่น งานผังเมืองรวมจังหวัดดำเนินการมาตั้งแต่ ปี 2547 กรมได้ผลักดันให้ประเทศไทยมีการบังคับใช้ผังเมืองรวมจังหวัด ครบทั้ง 73 จังหวัด (ยกเว้นกรุงเทพมหานคร ภูเก็ต นนทบุรี และสมุทรปราการ เนื่องจากมีการวางผังเมืองรวมครอบคลุมทั้งพื้นที่แล้ว) ภายใน ปี 2560 เป็นผลสำเร็จ และที่สำคัญใน ปี 2562 เราพยายามผลักดันให้เกิดพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2562 เพื่อแก้ไขปัญหาความล่าช้าในขั้นตอนการวางผังเมือง การกระจายอำนาจและกฎหมายที่ไม่ทั่วถึง ข้อดีของการปรับผังเมืองครั้งนี้ คือ ผังเมืองมีความสอดคล้องและเชื่อมโยง ทำให้มีเครื่องมือในการบริหารจัดการผังเมืองได้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม มีการจัดระบบระเบียบดีขึ้นส่งผลให้บูรณาการร่วมกันได้ดีขึ้นทุกภาคส่วน เป็นต้น
ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาเมือง เช่น โครงการพัฒนาพื้นที่เฉพาะเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อให้มีระบบสาธารณูปโภคและถนนหนทางที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย สะดวกสบายมากขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ โครงการพัฒนาพื้นที่เฉพาะบริเวณชายหาดปราณบุรี อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายหาด ปรับปรุงสภาพแวดล้อมชายหาดที่เสื่อมโทรมจากการถูกบุกรุก รวมทั้งพัฒนาระบบคมนาคมให้ทุกคนเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวและใช้ประโยชน์ร่วมกัน โครงการพัฒนาเมืองในพื้นที่ชุมชนเฉวง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในช่วงฤดูฝน ชุมชนเฉวง เกาะสมุยประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำ โดยเฉพาะใน ปี 2554 แต่หลังจากโครงการนี้เสร็จสิ้น ก็ไม่มีปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ชุมชนเฉวงอีกเลย ทำให้เกิดความสะดวก ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของประชาชน และนักท่องเที่ยว
และ "โครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่" ซึ่งได้ดำเนินการมาจนถึงปัจจุบัน (ปีงบประมาณ2562) ทั้งสิ้น 50 โครงการ ในพื้นที่ 43 จังหวัด การจัดรูปที่ดินเป็นวิธีหนึ่งที่หลายประเทศใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาพื้นที่ แก้ไขพื้นที่ตาบอดให้มีถนนและระบบสาธารณูปโภคเข้าถึง ตั้งเป้าว่าจะทำให้ครบทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ (ไม่รวมกรุงเทพฯ) อย่างน้อยจังหวัดละ 1 โครงการเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบถึงประโยชน์ของการจัดรูปที่ดิน และอีกหนึ่งโครงการที่สำคัญ คือ "ภารกิจการกำจัดผักตบชวา" โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกรมรับผิดชอบการกำจัดผักตบชวาในแม่น้ำแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลองปัจจุบันกรมมีแบคโฮบนโป๊ะ 5 ลำ (250 ตัน/วัน) เรือสายพานลำเลียงขนาดใหญ่ 25 ลำ (120 ตัน/วัน)และเรือกำจัดผักตบชวาขนาดเล็ก 10 ลำ (25 ตัน/วัน) รวม 40 ลำ พร้อมบุคลากรที่จะช่วยในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ
ยุทธศาสตร์ด้านการอาคาร กรมได้ปฏิบัติภารกิจในการควบคุมและตรวจสอบอาคารทั่วประเทศ ให้มีความมั่นคง ปลอดภัย มีอัตลักษณ์ ประหยัดพลังงานและลดภาวะโลกร้อน ตรวจสอบระบบและพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยในอาคาร ภายใต้การออกกฎหมายควบคุมอาคาร และยังมีกฎกระทรวงกำหนดการรับน้ำหนัก ความต้านทาน ความคงทนของอาคารและพื้นดินที่รองรับอาคารในการต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว พ.ศ. 2550 เพื่อให้อาคารที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหว สามารถต้านทานการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว นอกจากนี้ กรมยังได้ตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนสำหรับการใช้งานเครื่องเล่นจึงได้จัดทำกฎกระทรวงว่าด้วยการควบคุมเครื่องเล่น พ.ศ. 2558 เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุจากการเข้าใช้เครื่องเล่น เป็นต้น
ยุทธศาสตร์ด้านการบริการด้านช่าง กรมได้ดำเนินโครงการแบบบ้านสานฝัน ของขวัญปีใหม่ คนไทยมีความสุข ตั้งแต่ ปี 2559 โดยที่ประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการออกแบบบ้าน สามารถนำไปยื่นขออนุญาตก่อสร้างได้ทันที ซึ่งปี 2561 จัดทำ "แบบบ้านต้านแผ่นดินไหว" และปี 2562 จัดทำ "แบบบ้านอารยสถาปัตย์" เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมผู้สูงอายุ และ "แบบบ้านสำเร็จรูป" เพื่อแก้ไขปัญหาในการก่อสร้างที่พักอาศัยให้มีความสะดวก รวดเร็ว และประหยัด สำหรับเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ประสบภัยธรรมชาตินอกจากนี้ ยังมีงานออกแบบก่อสร้างพลับพลาพิธีสำหรับพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ทรงใช้ประทับในการประกอบพระราชกรณียกิจ งานพระราชพิธี การทรงงานการพัฒนา และช่วยเหลือราษฎรในทุก ๆ พื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งต้องเน้นความแข็งแรง ความสวยงาม สมพระเกียรติยศ ถูกต้องตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทยและหลักวิชาการด้านวิศวกรรมโยธา" อธิบดีกรมโยธาฯ กล่าว
อย่างไรก็ตาม โครงการเหล่านี้เป็นผลงานเพียงส่วนหนึ่งของกรมโยธาธิการและผังเมือง ในตลอดระยะเวลากว่า 7 ปีที่ผ่านมา (ปี 2556 – 2562) ภายใต้การกำกับดูแลของอธิบดีมณฑล สุดประเสริฐ ผู้เป็นนักบริหารงาน บริหารคน และเป็นนักวางแผนที่ดี ที่ได้สานต่อและริเริ่มพัฒนาในทุกๆ โครงการ ท้ายที่สุดเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และประเทศชาติโดยรวมอย่างยั่งยืน