กรุงเทพฯ--26 ก.ย.--วิเคราะห์ข่าว สํานักงานประชาสัมพันธ์
นายณรงค์ เรืองศรี ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. กล่าวกรณี ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร เสนอความคิดเห็นระบุพื้นที่ชุมชนริมฝั่งแม่น้ำของไทยควรจัดทำแก้มลิงและระบบท่อใต้ดิน เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมว่า กทม. ได้เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยดำเนินการ ดังนี้ 1) พัฒนาระบบท่อระบายน้ำ โดยเพิ่มขนาดท่อระบายน้ำด้วยวิธีการดันท่อ (Pipe Jacking) ในถนนสายหลัก เช่น ถนนสุขุมวิท ถนนเอกมัย ถนนศรีอยุธยา ถนนเยาวราช ถนนพหลโยธิน 2) พัฒนาระบบคลอง โดยเพิ่มความกว้างคลองระบายน้ำสายหลักและก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง พร้อมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนริมคลองร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) เช่น คลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร 3) พัฒนาระบบระบายน้ำ โดยก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ 4 โครงการ คือ อุโมงค์ระบายน้ำประชาราษฎร์สาย 2 อุโมงค์ระบายน้ำบึงมักกะสัน อุโมงค์ระบายน้ำพระรามเก้า อุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ และอยู่ระหว่างก่อสร้าง 1 แห่ง คือ อุโมงค์ระบายน้ำบึงหนองบอน รวมถึงมีแผนพัฒนาเพิ่มอีก 4 แห่ง คือ อุโมงค์ระบายน้ำคลองเปรมประชากร อุโมงค์ระบายน้ำคลองภาษีเจริญ อุโมงค์ระบายน้ำพระรามเก้าส่วนต่อขยาย อุโมงค์ระบายน้ำคลองพระยาราชมนตรี และ 4) พัฒนาแก้มลิงและธนาคารน้ำใต้ดิน นอกจากนี้ ยังได้เตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่อาจมีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำล้นตลิ่ง โดยเสริมความสูงของแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้สูงขึ้นจากเดิมที่ +2.50 เป็น +3.00 ถึง +3.50 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง พร้อมตรวจสอบความแข็งแรงและซ่อมแซมแนวป้องกันน้ำท่วมในจุดที่ชำรุดเป็นประจำทุกปี อีกทั้งเมื่อถึงฤดูน้ำหลากได้เสริมความสูงของแนวป้องกันน้ำท่วมด้วยกระสอบทรายอีก 50 เซนติเมตร