กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)รายงานอิทธิพลพายุโซนร้อน "โพดุล" และ พายุโซนร้อน "คาจิกิ"ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. 62 จนถึงปัจจุบัน (7 ต.ค. 62 เวลา 06.00 น.)ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์และวาตภัยในพื้นที่ 32 จังหวัด 184 อำเภอ 836 ตำบล 7,293 หมู่บ้านประชาชนได้รับผลกระทบ 419,988 ครัวเรือน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 35,642 หลังผู้เสียชีวิต 38 รายยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี 3 อำเภอ 5 ตำบล 24 หมู่บ้าน ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังรวมถึงดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัยเป็นหลักอีกทั้งสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลพายุโซนร้อน"โพดุล" และพายุโซนร้อน "คาจิกิ"ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคมจนถึงปัจจุบัน (7 ต.ค. 62 เวลา 06.00 น.)ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ รวม 32 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่ แพร่ เชียงใหม่เพชรบูรณ์ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร แม่ฮ่องสอน ลำปาง และสุโขทัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 จังหวัด ได้แก่ นครพนม ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มหาสารคาม ขอนแก่นหนองบัวลำภู ยโสธร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ชัยภูมิ สุรินทร์ อุดรธานี เลย ศรีสะเกษและสกลนคร ภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี ตราด และสระแก้ว ภาคใต้3 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ระนอง และชุมพร รวม 184 อำเภอ 836 ตำบล 7,293หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 419,988 ครัวเรือน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 35,642 หลัง ผู้เสียชีวิต 38 ราย (ยโสธร 9 ราย ร้อยเอ็ด 6 ราย อุบลราชธานี 6ราย อำนาจเจริญ 5 ราย ขอนแก่น 3 ราย ศรีสะเกษ 3 ราย พิจิตร 2 ราย พิษณุโลก 1รายมุกดาหาร 1 ราย สกลนคร 1 ราย น่าน 1 ราย) ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ และอำเภอสว่างวีระวงศ์ รวม 5 ตำบล 23 หมู่บ้าน ส่วนอำเภออื่นๆ มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตรบางพื้นที่ ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเจ้าหน้าที่ วัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์ภัยโดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำรถบรรทุกเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกลเร่งระบายน้ำ ออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังรวมถึงแจกจ่ายอาหารปรุงสุกน้ำดื่ม และถุงยังชีพตามวงรอบอีกทั้งดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัยในศูนย์พักพิงชั่วคราวอำนวยความสะดวกในการขนย้ายสิ่งของและการเดินทางในพื้นน้ำท่วมขังอีกทั้งให้บริการด้านสาธารณสุขครอบคลุมการดูแลสุขภาพและ สภาพจิตใจสำหรับจังหวัดที่สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้วให้เร่งสำรวจประเมินความต้องการการช่วยเหลือของผู้ประสบภัย พร้อมจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้านทั้งการประกอบอาชีพชีวิตความเป็นอยู่ ที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตร ปศุสัตว์สาธารณูปโภค เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯโดยเฉพาะด้านที่อยู่อาศัย แยกเป็นเสียหายทั้งหลังและเสียหายบางส่วนตลอดจนซ่อมแซมและฟื้นฟูสิ่งสาธารณประโยชน์ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป