กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--กลุ่มบริษัทคิง ไว กรุ๊ป
"แอนโทนิโอ ฮางตัท ชาน" รองประธานกลุ่มคิง ไว กรุ๊ป นักธุรกิจหนุ่มทายาทตระกูลธุรกิจชั้นนำของเอเชีย นักลงทุนชาวฮ่องกงในไทย คว้ารางวัล "ผู้นำรุ่นใหม่แห่งเอเชีย" หรือ "Asia's Most Admirable Young Leaders" จากเวที Asia Corporate Excellence & Sustainability Award ซึ่งเป็นเวทีระดับนานาชาติ เพื่อยกย่องความสำเร็จขององค์กรและบุคคลในเอเชียที่เป็นแบบอย่างในการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน จัดโดย MORS Group มาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่หก โดยงานปีนี้มีขึ้นที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพมหานครฯ สำหรับรางวัลดังกล่าวเป็นการเชิดชูเกียรติให้กับผู้นำนักบริหารรุ่นใหม่ที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี ซึ่งมีแนวคิด วิสัยทัศน์และแนวทางในการบริหารองค์กรที่โดดเด่น
กลุ่มบริษัทคิง ไว กรุ๊ป ภายใต้การนำของนายแอนโทนิโอ ได้ขยายธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจการเงิน จากฮ่องกง เข้ามาที่ประเทศไทยอย่างรวดเร็ว พร้อมกับกับการนำแนวคิด "การพัฒนาอย่างยั่งยืน" และสร้างระบบนนิเวศน์ทางธุรกิจที่เหมาะสมเข้ามาด้วย นายแอนโทนิโอกล่าวว่า แม้การขยายธุรกิจขึ้นไปในระดับสากลจะเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก แต่ทุกครั้งเขาจะปรับตัวโดยการเคารพและให้เกียรติกับแนวคิดและค่านิยมทางวัฒนธรรม ภูมิรัฐศาสตร์ ลักษณะทางเศรษฐกิจและปัจจัยทางสังคมในทุกๆ ด้านอย่างรอบคอบ โดยความท้าทายเหล่านี้ได้หล่อหลอมให้นายแอนโทนิโอเป็นนักธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์รอบด้านยิ่งขึ้น
แม้จะเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่แต่ก็มีสายสัมพันธ์และเครือข่ายในเอเชียที่แน่นแฟ้น โดยเฉพาะในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและกลุ่มนักธุรกิจชาวจีน ดังนั้น แอนโทนิโอ ฮางตัท ชาน จึงมีศักยภาพในการเป็นสะพานเชื่อมโยงนโยบายของภาครัฐและการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน โดยเฉพาะการส่งเสริมนโยบาย Belt and Road Initiative (BRI) ของจีนซึ่งเชื่อมโยงรัฐบาลจีนกับประเทศต่างๆ ทั่วโลกทั้งด้านสังคม โครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจ เมื่อเร็วๆนี้ นายแอนโทนิโอ ยังเป็นส่วนหนึ่งของคณะผู้แทนสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council) เดินทางพบปะคณะผู้แทนระดับสูงของไทยที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือสร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างไทย จีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงในด้านต่างๆ นอกจากนี้ เขายังเป็นนักธุรกิจต่างชาติที่ลงทุนอยู่ในโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาและผลักดันเศรษฐกิจไทยตามนโยบายของรัฐ
นอกจากปัจจัยในระดับภูมิภาคและวัฒนธรรมแล้ว นายแอนโทนิโอยังให้ความสำคัญกับจริยธรรมของผู้นำในการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน เขากล่าวว่า "พัฒนาการทางเทคโนโลยีในแวดวงธุรกิจเป็นเหรียญสองด้าน ความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นนี้หากไม่ได้เกิดจากเจตนาที่บริสุทธิ์ก็สามารถบ่อนทำลายผู้บริโภคได้ นอกเหนือจากการกำกับดูแลจากหน่วยงานภาครัฐ ในฐานะคนทำธุรกิจ "จริยธรรม" เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอันดับหนึ่งเพราะสุดท้ายแล้ว จริยธรรมที่ดีของธุรกิจในสังคมจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับนักธุรกิจอย่างเราๆ"