กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา
เพื่อสร้างเยาวชนให้เป็นผู้มีทักษะการคิดเชิงนวัตกรรม สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา จึงร่วมกับ Singapore Polytechnic นำเยาวชนไทยและสิงคโปร์ลงพื้นที่ชุมชน ตำบลหางน้ำสาคร อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ศึกษาข้อมูล ค้นหาปัญหาพร้อมคิดค้นนวัตกรรมผ่านกระบวนการเรียนรู้ Design Thinking ในโครงการ Learning Express 2019
ดร.ชนะวัฒน์ บุนนาค รักษาการรองอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา และประธานโครงการกล่าวว่า โครงการ Learning Express เป็นโครงการที่ให้นักเรียน นักศึกษา ฝึกกระบวนการคิด การวางแผน การแก้ปัญหา และการคิดค้นนวัตกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับชุมชน โดยใช้กระบวนการ Design Thinking เป็นตัวขับเคลื่อน เริ่มตั้งแต่การศึกษาข้อมูลของชุมชน (Sense and Sensibility) ลงพื้นที่ชุมชนเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์ การปฏิบัติจริง (Empathy) เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์หาปัญหา ความต้องการ และสิ่งที่มุ่งหวังภายใน เพื่อคิดค้นนวัตกรรมให้ตรงกับปัญหาและความต้องการ หลังจากนั้นนำข้อมูลที่วิเคราะห์แล้วมาสร้างสรรค์นวัตกรรม (Ideation) และสร้างนวัตกรรมต้นแบบ (Prototype) พร้อมนำเสนอแก่ชุมชนเพื่อนำนวัตกรรมไปใช้งานจริง โดยในปีนี้ได้เลือกพื้นที่ศูนย์การเรียนรู้เห็ด และฟาร์มไก่ออร์แกนิค บ้านหางแขยง ชุมชนวิถีฟาร์มสุข และสัมมาชีพชุมชน กลุ่มอาชีพเลี้ยงไส้เดือน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เป็นพื้นที่ดำเนินกิจกรรมเนื่องจากเป็นหน่วยงานที่สนับสนุนการมีรายได้ของชุมชนให้ชาวบ้านในพื้นที่มีรายได้และมีความรู้ในการหาเลี้ยงตนเอง ประกอบกับถ้ามีนวัตกรรมเข้ามาช่วยสนับสนุนการดำเนินงานก็จะทำให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืนมากขึ้น
นาย Muhamed Hafiz Bin Mahamed Taha นักศึกษา Singapore Polytechnic กล่าวว่า การร่วมโครงการ Learning Express ที่ประเทศไทยเป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าเป็นประสบการณ์ที่ดีในการช่วยเหลือสังคมได้พัฒนาตนเอง และได้เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมของเมืองไทยรวมถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ โดยเฉพาะการลงพื้นที่ชุมชน จ.ชัยนาท ที่ทุกคนได้สัมผัสวิถีชีวิตจริงด้วยตนเอง เรียนรู้ถึงกระบวนการทำงานตั้งแต่เริ่มจนจบ ได้สัมภาษณ์ชาวบ้านเพื่อเก็บข้อมูลเชิงลึก ค้นหาปัญหา และสร้างสรรค์นวัตกรรม ขอขอบคุณทีมงานทุกคนรวมถึงเพื่อนๆชาวไทยสำหรับมิตรภาพ การต้อนรับที่อบอุ่น และการช่วยเหลือตลอดระยะเวลาดำเนินกิจกรรม
นาย ปริญญา นางาม นักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดากล่าวเสริมว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 อาทิตย์ที่ร่วมโครงการทำให้ได้เรียนรู้การเข้าสังคม การพัฒนาตนเอง การสื่อสาร การร่วมมือทำงาน และได้เรียนรู้วิธีใช้ชีวิตมากขึ้น อีกทั้งได้มิตรภาพใหม่ๆจากเพื่อนต่างชาติ ถึงแม้ว่าจะพูดคุยกันต่างภาษาแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทำงานกลับทำให้ได้เรียนรู้มากขึ้นว่าเราจะสื่อสารอย่างไรเพื่อให้เพื่อนรับรู้และเข้าใจและอยากให้มีโครงการที่ดีแบบนี้ต่อไป