กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ย้ำนายจ้างย้ายสถานประกอบกิจการกระทบการดำรงชีวิต ต้องแจ้งลูกจ้างล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน และจ่ายค่าชดเชยพิเศษให้แก่ลูกจ้างที่ไม่ประสงค์จะย้ายภายใน 7 วัน นับแต่วันย้ายสถานประกอบการ
นายสมบูรณ์ ตรัยศิลานันท์ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ได้กำหนดสิทธิ หน้าที่ของนายจ้าง ลูกจ้างในกรณี ที่นายจ้างย้ายสถานประกอบกิจการไปตั้ง ณ สถานที่ใหม่หรือสถานที่อื่นอันมีผลกระทบสำคัญต่อการดำรงชีวิตตามปกติของลูกจ้างหรือครอบครัว โดยกำหนดให้นายจ้างมีหน้าที่ปิดประกาศแจ้งให้ลูกจ้างทราบล่วงหน้า ไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนย้ายสถานประกอบกิจการ สำหรับลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการย้ายสถานประกอบกิจการและไม่ประสงค์จะย้ายตามไปจะต้องแจ้งเป็นหนังสือให้นายจ้างทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่นายจ้างปิดประกาศหรือนับแต่วันย้ายสถานประกอบกิจการ และมีสิทธิได้รับค่าชดเชยพิเศษ ไม่น้อยกว่าค่าชดเชย ที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับกรณีที่ถูกเลิกจ้าง สำหรับนายจ้างที่ไม่เห็นด้วยกับเหตุผลของลูกจ้างมีสิทธิที่จะยื่นคำร้อง ต่อคณะกรรมการสวัสดิการแรงงานเพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยในเรื่องสิทธิดังกล่าวได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากลูกจ้าง
นายสมบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานได้กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการย้ายสถานประกอบกิจการขึ้นก็เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ลูกจ้าง ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม กฎหมายได้กำหนดเงื่อนไขและขั้นตอนการดำเนินการ ตามกฎหมายไว้ จึงขอให้นายจ้าง ลูกจ้างทำความเข้าใจหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติตามกฎหมายให้ชัดเจน เพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 ถึง 10 สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด หรือหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1506 กด 3