กรุงเทพฯ--8 ต.ค.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมการประชาสัมพันธ์ชี้แจงมาตรการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2562/2563 รอบที่ 1 ณ CK Convention Hall ศูนย์ประชุมจังหวัดพิจิตร ว่า กระทรวงเกษตรฯ เร่งชี้แจงหลักเกณฑ์ โครงการ เงื่อนไข และสิทธิประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับจากมาตรการประกันรายได้ โดยมีตัวแทนเกษตรกรเข้าร่วมการสัมมนาจากจังหวัดภาคเหนือตอนล่างกว่า 300 กว่าราย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ เร่ง kick off มาตรการประกันรายได้ใน 5 พืชชนิดหลัก ได้แก่ ข้าว ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง และข้าวโพด
สำหรับสินค้าข้าว รัฐบาลประกันรายได้ 5 ชนิดข้าวเปลือก โดยจะกำหนดราคาเป้าหมายซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรควรได้รับตามราคาตลาดเฉลี่ยทุก 15 วัน ได้แก่ 1) ข้าวหอมมะลิ 15,000 บาทต่อตัน ไม่เกินครัวเรือนละ 14 ตัน 2) ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาทต่อตัน ไม่เกินครัวเรือนละ 16 ตัน 3) ข้าวเจ้า 10,000 บาทต่อตัน ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ตัน 4) ข้าวหอมประทุม 11,000 บาทต่อตัน ไม่เกินครัวเรือนละ 25 ตัน และ 5) ข้าวเหนียว 12,000 บาทต่อตัน ไม่เกินครัวเรือนละ 16 ตัน ทั้งนี้ เกษตรกรต้องขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่
สำหรับในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ได้มุ่งเน้นการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวที่มีคุณภาพ ปลอดภัย เพื่อการแข่งขันในตลาดโลก อีกทั้งยังสนับสนุนการลดต้นทุนและพัฒนาระบบการเก็บรักษาพืชผลทางการเกษตรให้มีคุณภาพ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และจะใช้ทุกช่องทางเพื่อเพิ่มตลาดให้พี่น้องเกษตรกรทั้งในระบบออนไลน์และออฟไลน์ต่อไป
"ขอสร้างความมั่นใจว่ามาตรการประกันรายได้จะเป็นหลักประกันเบื้องต้นให้พี่น้องเกษตรกรทำนาแล้วไม่ขาดทุน นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯยังมีมาตรการเสริม เพื่อผลักดันราคาสินค้าเกษตรให้มีราคาสูงขึ้นอีกด้วย" นายนราพัฒน์ กล่าว