กรุงเทพฯ--8 ต.ค.--เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น
ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง "เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น" หรือ TPS ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai เตรียมหุ้นไอพีโอ 80 ล้านหุ้น คิดเป็น 28.57% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด เผยนำเงินระดมทุนไปใช้รองรับแผนการขยายธุรกิจ ด้วยการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเครือข่าย และจัดตั้งศูนย์ข้อมูลเพื่อแสดงระบบรักษาความปลอดภัยและระบบการติดต่อสื่อสาร คืนเงินกู้ ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (TPS) เปิดเผยว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ของ TPS เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2562 โดยบริษัทฯมีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 80 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 28.57% ของจำนวนหุ้นสามัญที่จดทะเบียนแล้วทั้งหมด คาดว่าจะเสนอขายหุ้นไอพีโอ และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอ ไอ (mai) ภายในไตรมาส 4 ปีนี้
TPS มีความโดดเด่นที่น่าสนใจในหลายด้าน โดยเฉพาะการเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ CISCO ระดับ Gold Certified Partner ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยมีเพียง 11 รายเท่านั้น และบริษัทฯ ยังเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายสารสนเทศชั้นนำระดับโลกรายอื่นๆ อีก ได้แก่ NetApp, Palo Alto Networks, Symantec, VMware และ FORTINET พร้อมกับมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์การทำงานซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าจนเป็นที่พึงพอใจ
"บริษัทฯเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายสารสนเทศชั้นนำระดับโลกได้แก่ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ อิงค์ (Cisco) และผู้ผลิตอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ไอทีอีกหลายราย โดยบริษัทฯมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทำให้ได้รับ Gold Certified Partner จาก Cisco และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และคู่ค้า และมีทางเลือกที่หลากหลายในการให้บริการ เช่น การให้บริการในรูปแบบสัญญาเช่าทางการเงิน มีการให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขาย และมีการส่งมอบงานที่ตรงต่อเวลา ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาได้รับการยอมรับจากลูกค้าชั้นนำทั้งภาครัฐ และเอกชนโดยมีกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ได้แก่ อุตสาหกรรมโทรคมนาคม อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมน้ำมันและโรงกลั่น อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ โรงพยาบาล สถาบันการเงิน สถาบันการศึกษา และโลจิสติกส์ เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทฯ มีการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจด้านการออกแบบและพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการให้คลอบคลุมงานได้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น"นางสาวพัชพรกล่าว
ขณะเดียวกันในอนาคตธุรกิจของ TPS ยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก ด้วยปัจจัยที่สนับสนุนสำคัญคือการลงทุนของหน่วยงานภาครัฐ โดยมีงบประมาณรายจ่ายมากถึง 3 ล้านล้านบาท สำหรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อส่งเสริมสังคมดิจิทัลและสร้างการเข้าถึงการใช้บริการสื่อสารอย่างเท่าเทียม ตามแผนการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจโดยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี (ประเทศไทย 4.0) และแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (Digital Economy) มุ่งเน้นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ส่วนการลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของภาคเอกชนก็มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน จากการเปลี่ยนแปลงจากระบบ 4G ไปสู่ 5G ซึ่งจะทำให้มีการลงทุนในด้านนี้มากขึ้น ดังนั้นจึงส่งผลบวกต่อการดำเนินธุรกิจของ TPS
TPS มีสัดส่วนรายได้หลักมาจากธุรกิจจำหน่ายและวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยคิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยในช่วงปี 2559–2561 เท่ากับ 77.39% ในขณะที่สัดส่วนรายได้ส่วนที่เหลือหลักๆ มาจากรายได้จากการให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขาย คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยในช่วงปี 2559–2561 เท่ากับ 19.70% ในขณะที่ 6 เดือนแรกของปี 2562 สัดส่วนรายได้ของธุรกิจจำหน่ายและวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ต่อสัดส่วนรายได้จากการให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขายอยู่ที่ประมาณ 75% ต่อ 25%
สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังในปี 2559 – 2561 และงวด 6 เดือนแรกปี 2562 บริษัทฯมีรายได้จากการขายและให้บริการเท่ากับ 595.97 ล้านบาท 847.54 ล้านบาท 536.58 ล้านบาท และ 321.31 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 61.18 ล้านบาท 54.04 ล้านบาท 42.01 ล้านบาท และในงวด 6 เดือนแรกปี 2562 เท่ากับ 22.15 ล้านบาท ตามลำดับ
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบรายได้จากการขายและบริการในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 เทียบกับ 6 เดือนแรกปี 2561 พบว่าบริษัทฯมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 55% ในขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 503% และบริษัทฯ ยังมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นกว่า 34%
นายบุญสม กิจเกษตรสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (TPS) เปิดเผยว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้ในการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเครือข่าย (Network Operation Center: NOC) การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลเพื่อแสดงระบบรักษาความปลอดภัยและระบบการติดต่อสื่อสาร(DEMO Data Center, Security & Collaboration) ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินจากการลงทุนซื้อที่ดินและก่อสร้างอาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
"บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายการบริการเพื่อให้บริการครอบคลุมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น จึงมีแผนงานโครงการในอนาคตดังนี้ 1.การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเครือข่าย เพื่อรองรับการให้บริการดูแลและติดตามความเคลื่อนไหว (Monitor) ของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในองค์กรของลูกค้า 2. การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลแสดงระบบรักษาความปลอดภัยและระบบการติดต่อสื่อสาร เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการขาย เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ โดยให้ลูกค้าเห็นถึงวิธีการทำงานของระบบจริงและประสิทธิภาพของระบบงานต่างๆ และ 3.บริษัทฯ มีนโยบายที่จะขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการรับงานโครงการที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจากลูกค้าทั้งหน่วยงานของรัฐและเอกชน ซึ่งจำเป็นที่จะต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น โดยบริษัทฯ คาดว่าจะใช้แหล่งเงินทุนจากการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนในครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนแผนงานดังกล่าว"นายบุญสม กล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ TPS ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ แบ่งการให้บริการของบริษัทฯ เป็น 3 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์และวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ธุรกิจให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขาย ธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นๆ ปัจจุบันบริษัทได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจในระดับ Gold Certified Partner จาก บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ อิงค์ (CISCO) ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีชื่อเสียงจากประเทศสหรัฐอเมริกาและได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั่วโลก