Taboola ผนึก Outbrain แข่งโฆษณาเฟซบุ๊กและกูเกิล

ข่าวเทคโนโลยี Tuesday October 8, 2019 15:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ต.ค.--ทาบูล่า การควบรวมครั้งนี้ทำให้บริษัทเข้าถึงผู้คนกว่า 2 พันล้านคนต่อเดือน และสนับสนุนสื่อสารมวลชนทั่วโลก โดยทั้งสองบริษัทตกลงทำธุรกรรมทั้งแบบเงินสดและหุ้น Taboola (ทาบูล่า) และ Outbrain (เอาท์เบรน) แพลตฟอร์มโฆษณาดิจิทัลชั้นนำ ประกาศว่าได้บรรลุข้อตกลงควบรวมกิจการ ทั้งนี้การซื้อขายจะเสร็จสิ้นเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ ทั้งนี้กรรมการบริหารของทั้งสองบริษัทได้อนุมัติการทำรายการดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังการควบรวม บริษัทจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการโฆษณาและเข้าถึงนักการตลาดทั่วโลก อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนองค์กรสื่อและผู้ผลิตคอนเทนต์ดิจิทัลให้สามารถเติบโตได้อย่างมีประสิทธิผลต่อไปในอนาคต "ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ผมชื่นชมเอาท์เบรน และนวัตกรรมที่ยารอน กาไล และโอริ ลาฮาฟ รวมถึงทีมงานของเอาท์เบรนนำเสนอมาโดยตลอด การผนึกกำลังกันครั้งนี้ ทำให้เราเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งของเฟซบุ๊กและกูเกิล อีกทั้งยังเป็นทางเลือกที่มีนัยสำคัญต่อผู้โฆษณา" อดัม ซิงโกลด้า ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของทาบูล่ากล่าว ทั้งนี้ข้อมูลจากอีมาร์เก็ตเตอร์ (eMarketer) ระบุว่า 70% ของรายได้จากการโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลในสหรัฐอเมริกาในปี 2562 อยู่ในมือของผู้เล่นหลักเพียง 3 ราย ได้แก่ กูเกิล เฟซบุ๊ก และอเมซอน "เรามุ่งมั่นผลักดันการเติบโตให้แก่ลูกค้าของเราและสนับสนุนโอเพ่นเว็บ ซึ่งเราเห็นว่าจำเป็นสำหรับโลกใบนี้ที่มีสภาพแบบสวนปิด (walled garden) ซึ่งผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้อย่างจำกัดภายใต้สภาพแวดล้อมที่ถูกควบคุม และบางครั้งกำแพงที่ปิดกั้นนั้นก็แข็งแกร่งมากเกินไป การร่วมมือกันครั้งนี้เรายังคงเดินหน้าลงทุนในการทำให้เม็ดเงินโฆษณาทุกบาททุกสตางค์ไปถึงองค์กรสื่อและผู้ผลิตคอนเทนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่วงการสื่อสารมวลชนในทศวรรษหน้า และนั่นคือเหตุผลที่เกิดการควบรวมกิจการครั้งนี้และพันธกิจของเรา" "เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เป็นพันธมิตรกับทาบูล่า ทั้งเอาท์เบรนและทาบูล่ามีพันธกิจและวิสัยทัศน์ร่วมกันในการสนับสนุนการสื่อสารมวลชนที่มีคุณภาพในระดับสากลและส่งมอบคุณค่าต่อตลาดโอเพ่นเว็บ" ยารอน กาไล ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอร่วม เอาท์เบรนกล่าว โอริและผมมีวิสัยทัศน์ที่ต้องการให้ผู้คนค้นพบคอนเทนต์ออนไลน์ที่มีคุณภาพ เรามองเห็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการร่วมมือกับทาบูล่าเพื่อสร้างคลื่นนวัตกรรมลูกใหม่สำหรับผู้ผลิตคอนเทนต์และผู้โฆษณาที่เป็นพันธมิตรของเรา ผมมั่นใจว่า ด้วยความร่วมมือครั้งนี้เราจะสามารถสานต่อพันธกิจของเราที่เรียกว่าไลท์เฮาส์ (Lighthouse) เพื่อนำความสามารถในการค้นพบคอนเทนต์ที่ดีที่สุดและเชื่อถือได้ไปยังผู้ใช้งานทั่วโลก" จนกว่าการควบรวมกิจการจะเสร็จสิ้น อดัม ซิงโกลด้า ผู้ก่อตั้งและซีอีโอคนปัจจุบันของทาบูล่า จะยังคงดำรงตำแหน่งซีอีโอของบริษัทหลังควบรวมกิจการ ซึ่งจะดำเนินงานภายใต้ชื่อการค้าทาบูล่า ทั้งนี้ ชื่อการค้าจะได้รับการพิจารณาเพื่อสะท้อนถึงการควบรวมของทั้งสองบริษัทต่อไป อนึ่งภายใต้เงื่อนไขในสัญญาการควบรวมกิจการ ผู้ถือหุ้นเอาท์เบรนจะได้รับหุ้น 30% ของบริษัทหลังควบรวมกิจการและเงินสดมูลค่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 7.63 ล้านล้านบาท) กรรมการบริหารของบริษัทหลังควบรวมกิจการจะประกอบไปด้วยทีมบริหารและกรรมการจากทั้งทาบูล่าและเอาท์เบรน อัลดาด มานีฟ ผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของทาบูล่า และเดวิด โคสต์แมน ซีอีโอร่วมของเอาท์เบรนจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการบริหารงานทุกมิติภายหลังการควบรวมกิจการ ส่วนยารอน กาไล จะยังคงมีส่วนร่วมในการสร้างความสำเร็จของบริษัทต่อไปและสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทอย่างแข็งขันในช่วงการเปลี่ยนผ่านไปเป็นระยะเวลา 12 เดือนจนกว่าการควบรวมจะแล้วเสร็จ "เราโชคดีที่มีทีมงานที่มีความสามารถจากทั้งเอาท์เบรนและทาบูล่า" อัลดาด มานีฟ กล่าว "ทันทีที่การควบรวมเสร็จสิ้น เราจะดำเนินการเพื่อบูรณาการทีมงานต่างๆ เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วในทุกมิติ เราได้กำหนดเป้าหมายที่ท้าทายไว้เพื่อส่งมอบคุณค่าต่อลูกค้า ขับเคลื่อนนวัตกรรมเทคโนโลยี และผลงานทางการเงินต่อผู้ถือหุ้นผ่านประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและนวัตกรรม การทำงานร่วมกับเดวิด และทีมงานจากเอาท์เบรน ผมมั่นใจว่าจะสามารถประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้อย่างแน่นอน" "นับเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปีที่ทั้งสองบริษัทได้สร้างสรรค์โซลูชั่นที่ทรงพลังและน่าทึ่ง เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตคอนเทนต์และผู้โฆษณาหลายหมื่นรายสามารถเติบโตได้" เดวิด โคสต์แมน กล่าว ผมตั้งตารอคอยที่จะได้ทำงานร่วมกับอัลดาดและทีมของเขาเพื่อนำสิ่งที่ดีที่สุดของทั้งสองบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และความเชี่ยวชาญในธุรกิจ เพื่อสร้างสรรค์โอเพ่นเว็บให้น่าสนใจและเป็นทางเลือกเพิ่มเติมจากกูเกิลและเฟซบุ๊ก" บริษัทหลังควบรวมกิจการ จะมีพนักงานมากกว่า 2,000 คนในสำนักงาน 23 แห่ง ดูแลลูกค้ากว่า 20,000 รายในกว่า 50 ประเทศทั่วทั้งอเมริกาเหนือ ละติน อเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชียแปซิฟิก กลยุทธ์ที่น่าสนใจและเหตุผลทางการเงินสำหรับการควบรวมกิจการ ประโยชน์เชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของการควบรวมกิจการมีดังต่อไปนี้: 1. เพิ่มทางเลือกให้กับผู้โฆษณา: การควบรวมบริษัทจะทำให้สามารถบริการผู้โฆษณา ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงแบรนด์ระดับโลก ด้วยทางเลือกในการแข่งขันที่มีนัยสำคัญต่อกูเกิลและเฟซบุ๊ก –บริษัทซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ "ผู้แข่งขันเพียงสองรายในตลาด หรือ Duopoly" ในปัจจุบัน และเป็นผู้ควบคุมการใช้จ่ายโฆษณาดิจิทัลส่วนใหญ่ 2. ประสิทธิภาพการโฆษณาที่เหนือกว่า: แพลตฟอร์มการซื้อแบบรวมเป็นหนึ่งเดียวจะทำให้ผู้โฆษณาได้รับประสิทธิภาพที่ดีกว่า ช่วยพวกเขาบรรลุเป้าหมายด้านสร้างการรับรู้ การพิจารณาเลือก และตัดสินใจซื้อ 3. รายได้ที่เพิ่มขึ้นและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานกับผู้ผลิตคอนเทนต์ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมและผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ: ด้วยการลงทุนในด้านเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นและการขยายการเข้าถึง แพลตฟอร์มที่รวมกันนั้นจะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับผู้ผลิตคอนเทนต์ ผู้ให้บริการเครือข่ายและผู้ผลิตอุปกรณ์ รวมถึงขับเคลื่อนให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานที่ดีขึ้น 4. การเร่งนวัตกรรม: ด้วยการรวมทีมงานที่แข็งแกร่งที่สุดด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ในอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน และการเร่งการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา จะทำให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของคู่ค้าและลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น 5. สร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าให้แก่ผู้บริโภค: โซลูชั่นของทาบูล่าและเอาท์เบรนถูกรวบรวมเข้าด้วยกันโดยตรงโดยผู้บริโภคเพื่อช่วยให้พวกเขาค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ในช่วงเวลาที่พวกเขาพร้อมจะค้นหาสิ่งใหม่ๆ เช่น ปัจจุบันนี้ Taboola News ได้รวมอยู่ในอุปกรณ์แอนดรอยด์กว่า 60 ล้านเครื่องทั่วโลก การควบรวมบริษัทนี้จะสามารถเร่งการพัฒนาโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรม พัฒนาความสามารถของผู้คนในการเพลิดเพลินกับการสื่อสารมวลชนที่มีคุณภาพ การแต่งตั้งตัวแทน J.P. Morgan Securities LLC ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการเงินแต่เพียงผู้เดียวให้กับทาบูล่า สำนักงานกฎหมาย Meitar Liquornik Geva Leshem Tal Law Offices และ Davis Polk & Wardwell LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้กับทาบูล่า นอกจากนี้ทาบูล่ายังได้รับการสนับสนุนจาก Citigroup Global Markets Inc อีกด้วย ส่วน Goldman, Sachs & Co. ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการเงินให้กับเอาท์เบรน โดยมีสำนักงานกฎหมาย Meitar Liquornik Geva Leshem Tal Law Offices White & Case LLP และ Wilson Sonsini Goodrich & Rosati ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้กับเอาท์เบรน เกี่ยวกับทาบูล่า ทาบูล่าช่วยให้ผู้คนค้นพบสิ่งใหม่และน่าสนใจ แพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัทซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Deep Learning และฐานข้อมูลขนาดใหญ่บนโอเพ่นเว็บ ซึ่งมีบริษัทต่างๆ ใช้งานกว่า 20,000 ราย และเข้าถึงผู้คนกว่า 1.4 พันล้านคนในแต่ละเดือน ผู้โฆษณาเลือกใช้ทาบูล่าเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในช่วงเวลาที่พวกเขาพร้อมที่จะเปิดรับข้อความ ผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ ผู้ให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็นสำนักข่าวหรือสำนักพิมพ์ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือต่างเลือกใช้ทาบูล่าเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและการใช้จ่าย ผู้ให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ชั้นนำระดับโลกรายหลายมีความสัมพันธ์ที่ดียิ่งกับทาบูล่า ไม่ว่าจะเป็น CNBC, NBC News, USA TODAY, BILD, Sankei, Huffington Post, Microsoft, Business Insider, The Independent, El Mundo และ Le Figaro ทาบูล่ามีสำนักงานใหญ่อยู่ที่มหานครนิวยอร์ก และมีสำนักงานกระจายอยู่ใน15 เมืองทั่วโลก เกี่ยวกับเอาท์เบรน เอาท์เบรนเชื่อมโยงผู้คน สำนักข่าวหรือสำนักพิมพ์ และนักการตลาดเข้าด้วยกันอย่างมีความหมายและวางใจได้ เทคโนโลยีโฆษณาของบริษัทได้รับการใช้งานโดยนักการตลาดนับพันคนทั่วโลก และเข้าถึงผู้คนกว่า 1.2 พันล้านคนในแต่ละเดือน เอาท์เบรนเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการคอนเทนต์ชั้นนำระดับโลกหลายรายเพื่อช่วยให้ผู้บริการเหล่านี้เพิ่มรายรับจากการโฆษณา อาทิ CNN, BBC, The Washington Post, The Guardian, Spiegel Online, El Paris และ Sky News บริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นิวยอร์กและมีสำนักงานกระจายอยู่ใน 18 เมืองทั่วโลก ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วย "ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต" ตามความหมายของ "safe habor" ในบทบัญญัติ Private Securities Litigation Reform Act of 1995 ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตเหล่านี้ มักมีการใช้คำว่า "เป้า" "เชื่อ" "คาดว่า" "จะ" "อาจ" "คาดการณ์" "ประมาณการณ์" "คาด" "น่าจะ" "วางแผน" "อนาคต" และคำอื่นๆ ที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์และแนวโน้มต่างๆ ในอนาคตที่มิใช่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ตัวอย่างของข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตรวมถึง ข้อความในข่าวที่เผยแพร่เกี่ยวกับการเสนอให้ควบรวมกิจการ ซึ่งรวมถึงผลประโยชน์ต่างๆ จากการควบรวมกิจการ การบริหารจัดการบริษัทหลังการควบรวม ตลอดจนช่วงเวลาที่คาดว่าจะดำเนินธุรกรรมตามที่ระบุในสัญญา ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่เคยเกิดขึ้นหรือการรับประกันผลการดำเนินงานในอนาคต แต่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเชื่อ ความคาดหวัง และสมมุติฐานของผู้บริหารทาบูล่าและเอาท์เบรน ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเกี่ยวข้องกับอนาคต จึงมีความไม่แน่นอน ความเสี่ยง และการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ ที่ยากจะคาดเดาและอยู่เหนือการควบคุม ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจต่างจากที่ระบุไว้ในข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ดังนั้นท่านจึงไม่ควร ยึดถือข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตกับเหล่านี้ ปัจจัยสำคัญที่อาจส่งให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงต่างจากที่ระบุไว้ในข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ประกอบด้วย แต่ไม่จำกัดเพียง (1) เหตุการณ์ใดๆ ที่อาจนำไปสู่การยกเลิกสัญญาการควบรวมธุรกิจ (2) การไม่สามารถบรรลุการควบรวมธุรกิจเนื่องจากไม่ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น หรือไม่อาจบรรลุเงื่อนไขอื่นๆ ในการปฏิบัติตามสัญญาได้ (3) ความเสี่ยงที่การควบรวมธุรกิจจะขัดขวางแผนงานและการดำเนินงานในปัจจุบันอันเป็นผลมาจากการประกาศควบรวมธุรกิจ (4) ความสามารถในการรับรู้และบรรลุประโยชน์ในการควบรวมธุรกิจ ซึ่งอาจถูกกระทบโดย การแข่งขัน ความสามารถของธุรกิจหลับการควบรวมในการเติบโตและสร้างผลกำไร รักษาความสัมพันธ์กับบุคคลที่สามและพาร์ทเนอร์ ตลอดจนรักษาผู้บริหารและพนักงานคนสำคัญไว้ให้ได้ (5) ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมธุรกิจ และ (6) ความเป็นไปได้ที่ธุรกิจหลังการควบรวมอาจอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ทางเศรษฐกิจ ธุรกิจ และ/หรือ การแข่งขัน หมายเหตุ ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอขายหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา และหลักทรัพย์ที่ถูกออกผ่านการทำธุรกรรมนี้จะไม่ได้รับการเสนอหรือขายในสหรัฐอเมริกา หากไม่มีหรือได้รับการยกเว้นการยื่นแบบฟอร์มลงทะเบียน ทาบูล่ามิได้ตั้งใจที่จะออกหลักทรัพย์ใดๆ ในการทำธุรกรรมด้วยวิธีการเสนอขายต่อประชาชนในสหรัฐอเมริกา แต่การเสนอขายหลักทรัพย์แก่ประชาชนในสหรัฐอเมริกาจะทำโดยวิธีการของหนังสือชี้ชวน ที่อาจได้รับจากผู้ออกหลักทรัพย์ อันจะมีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัทและผู้บริหารตลอดจนเอกสารงบการเงิน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ