ศูนย์นวัตกรรมไทยยูเนี่ยนแลกเปลี่ยนทัศนะกับอิเกียภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้

ข่าวทั่วไป Tuesday October 8, 2019 16:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ต.ค.--ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ศูนย์นวัตกรรมไทยยูเนี่ยนต้อนรับคณะศึกษาดูงานจากอิเกียภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ โดยวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ จากอิเกียทั้ง 37 ท่านได้แลกเปลี่ยนทัศนะ ความรู้แลการทำงานในแง่มุมของนวัตกรรม ความยั่งยืนและกระบวนการต่างๆ ของอุตสาหกรรม ทั้งนี้ มร.รอมเมล เจสัน ดีลิมอส ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ดร.สเตฟาน แมร์ฮอเฟอร์ และ ดร.แฟรงก์ คอร์เตส นักวิจัยด้านเทคโนโลยีขั้นตอนการผลิต ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ทำงานกับคณะจากอิเกีย ศูนย์นวัตกรรมไทยยูเนี่ยน ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 2558 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทในเครือทั่วโลก รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการคิดค้นเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อมาพัฒนาปรับปรุงกระบวนการผลิตและหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อสร้างประโยชน์และคุณค่าให้กับลูกค้า ผู้บริโภค และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยทำหน้าที่เชื่อมโยงทางวิทยาการโภชนาการสมัยใหม่เข้ากับนวัตกรรมการผลิต เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและอุตสาหกรรมอาหารโลก ในปี 2562 ศูนย์นวัตกรรมไทยยูเนี่ยนได้ย้ายจาก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มายัง บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) อาคารเอส เอ็มทาวเวอร์ ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร โดยศูนย์นวัตกรรมแห่งใหม่นี้ มีพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร มีมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท สามารถรองรับ นักวิทยาศาสตร์ระดับปริญญาเอกมากกว่า 40 ท่านและนักวิจัยกว่า 120 คนทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางทะเล วิศวกรรม ชีวการแพทย์ ศาสตร์ทางด้านอาหารและโภชนาการจากทั่วโลก ที่มาร่วมมือกันเพื่อแลกเปลี่ยน องค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ ในการค้นคว้าวิจัย และการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้ได้สิ่งที่ดี เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุภาชนะชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 133.3 แสนล้านบาท (4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 47,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Ruegen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่ จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange(R) และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด ทำให้ในปี 2561 และ 2562 ไทยยูเนี่ยนได้เป็นผู้นำอันดับ 1 กลุ่มอุตสาหกรรมของโลกใน Food Industry ในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ และประสบความสำเร็จในการได้รับคะแนนเปอร์เซ็นไทล์สูงสุดที่ 100 ในคะแนนด้านความยั่งยืนทั้งหมด ปัจจุบันไทยยูเนี่ยนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index ในปี 2561 อีกด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ