กรุงเทพฯ--9 ต.ค.--วิเคราะห์ข่าว สํานักงานประชาสัมพันธ์
นายอาฤทธิ์ ศรีทอง ผู้อำนวยการเขตจตุจักร กทม. กล่าวกรณีผู้ใช้ทวิตเตอร์เผยแพร่ภาพและข้อความกลุ่มนักเรียนถือกล่องรับบริจาคเรี่ยไรเงินจากประชาชน อ้างว่าต้องการนำเงินไปบริจาคบ้านเด็กอ่อน โดยมีผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมระบุเป็นนักเรียนโรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ เขตจตุจักร โดยครูสอนดนตรีและผู้ควบคุมวงโยธวาทิต เป็นผู้สั่งให้นักเรียนออกเรี่ยไรเงินดังกล่าว หากไม่ทำตามจะถูกลงโทษว่า ในเบื้องต้นผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ ได้ชี้แจงให้คณะผู้บริหาร กทม. ทราบถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เป็นการเรี่ยไรของนักเรียน ในกิจกรรมอาสา ชมรมโยธวาทิต ซึ่งจะออกเรี่ยไรในวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค. - 1 ต.ค. 2562 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินที่ได้รับไปซื้อสิ่งของบริจาคให้บ้านเด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา ปากเกร็ด ซึ่งมีกำหนดส่งมอบของบริจาคในวันที่ 23 ต.ค. 2562 ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการให้สำนักงานเขตจตุจักร แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวและรายงานผลโดยเร็วที่สุด ซึ่งสำนักงานเขตจตุจักร ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมกำหนดให้รายงานผลภายใน 30 วัน
นายณัฐพงศ์ ดิษยบุตร ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กทม. กล่าวว่าจากกรณีดังกล่าว สำนักการศึกษา ได้เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบพฤติกรรมครูในโรงเรียนทั้งการใช้ความรุนแรงกับนักเรียนและการจัดกิจกรรมของชมรมต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีดังกล่าว ประกอบด้วย 1) ตรวจสอบพฤติกรรมครูในโรงเรียน โดยในการประเมินคุณภาพการปฏิบัติงานของข้าราชการครูมีการประเมินด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณ และมาตรฐานวิชาชีพ ปีการศึกษาละ 2 ครั้ง เพื่อให้ครูเกิดความตระหนักและปฏิบัติอยู่ในระเบียบ 2) ในการประเมินเพื่อเลื่อนหรือมีวิทยฐานะ ต้องนำประเด็นการถูกตรวจสอบด้านวินัยเป็นเกณฑ์สำคัญในการประเมิน 3) การประเมินด้านวินัย คุณธรรมจริยธรรมในทุกกระบวนการประเมิน ควรมีการประเมินสามเส้า คือ การประเมินตนเอง การประเมินโดยเพื่อนร่วมงาน การประเมินโดยผู้บริหาร และ 4) การจัดกิจกรรมชมรมภายในโรงเรียน ให้ครูผู้รับผิดชอบจัดทำแผนการจัดกิจกรรมตลอดปีการศึกษาเสนอต่อผู้อำนวยการสถานศึกษา เพื่อขออนุมัติและรายงานผลการจัดกิจกรรมทุกภาคเรียน โดยประเมินผลการจัดกิจกรรมจากนักเรียนและผู้ปกครองด้วย