กรุงเทพฯ--10 ต.ค.--IR PLUS
กลุ่มบริษัทผู้พัฒนาบล็อกเชน และเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศไทย เปิดตัว Thailand Blockchain Working Group (TBWG) ภายใต้ความร่วมมือของ J Ventures พร้อมด้วย I AM Consulting , Dome Cloud , Atomic Pay และ Satang หวังติดปีกธุรกิจในยุคบล็อกเชน เพิ่มศักยภาพในการลงทุน การแข่งขันและ เสริมแกร่งให้ฟินเทคในประเทศไทย
นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (J Ventures) บริษัทในกลุ่มเจมาร์ท จับมือพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและบล็อกเชน (Blockchain) ชั้นนำของประเทศ ได้แก่
I AM Consulting บริษัทที่ปรึกษาและพัฒนาระบบไอทีสำหรับองค์กรเอนเทอร์ไพรส์, Dome Cloud ผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านไอทีครบวงจร, Atomic Pay ผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาแพลตฟอร์มบล็อกเชน และ Satang เว็บเทรดคริปโตเคอร์เรนซี เปิดตัว Thailand Blockchain Working Group (TBWG) เพื่อเป็นอีกหน่วยงานสำคัญในการสร้างระบบนิเวศในอุตสาหกรรมไอที (Ecosystem) ให้เติบโตแข็งแรง โดยอาศัยจุดแข็งของพันธมิตรแต่ละรายมามาร่วมกัน รวมถึงขับเคลื่อนองค์กรต่างๆ ในประเทศไทยให้พัฒนาในด้านเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับ Thailand Blockchain Working Group (TBWG) นับว่าเป็นการรวมตัวของนักพัฒนาและผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยเป้าหมายของหน่วยงานต่อจากนี้ จะเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศบล็อกเชนในประเทศไทย ด้วยการลงทุนในบริษัทผู้พัฒนาระบบไอทีและบล็อกเชนต่างๆ รวมถึงได้เตรียมจัดทำกิจกรรมหลัก เพื่อสร้างการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็น 4 กิจกรรม ดังนี้
- Technology Event การจัดกิจกรรมเสริมความรู้ด้าน Blockchain และ Distributed Ledger Technology ให้กับผู้พัฒนาระบบ Developer ร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชน ภาครัฐ และสถาบันการศึกษา
- Developer Network เป็นเครือข่ายผู้พัฒนา Applications บนเทคโนโลยี Blockchain และ DLT เพื่อเปิดโอกาสการเข้าถึงเทคโนโลนี รวมถึงสร้างสรรค์โอกาสและแบ่งปันความรู้ระหว่างผู้พัฒนาระบบร่วมกัน
- Education & Training แหล่งการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยี Blockchain ร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำ เพื่อพัฒนา Developer รุ่นใหม่ให้ทันกับเทคโลยีที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
- Hackathon ส่งเสริมกิจกรรมและพัฒนา Blockchain Ecosystem โดยใช้พื้นฐานจากภาคธุรกิจ เพื่อต่อยอดให้เกิด Applications ที่สามารถใช้งานได้จริงในประเทศไทยและตลาดโลก
"Thailand Blockchain Working Group ต้องการช่วยให้เหล่านักพัฒนาไอทีและบล็อกเชนในประเทศไทยได้เติบโต และสามารถขับเคลื่อนองค์กรไปได้อย่างยั่งยืน เนื่องจากปัจจุบัน เทคโนโลยีบล็อกเชนเองก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เริ่มมีการใช้งานในหลายองค์กรธุรกิจ จากประโยชน์เรื่องของการจัดเก็บข้อมูล และการทำงานที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว ต้นทุนต่ำ บนความปลอดภัยสูง ดังนั้น การรวมตัวของพันธมิตรผู้ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญในระบบไอทีจะช่วยให้ภาคองค์กรธุรกิจ ภาครัฐ ไปจนถึงผู้บริโภค เกิดความเข้าใจ และต้องการที่จะเข้าถึงเทคโนโลยี ส่งผลให้เกิดการเติบโตของอุตสาหกรรมไอทีและบล็อกเชนในประเทศไทยและอาเซียนต่อไป" นายธนวัฒน์ กล่าว