กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--สสวท.
เนื่องจาก สสวท. ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการผลิตครูที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (สควค.) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 เพื่อผลิตครูวิทยาศาสตร์ที่มีความสามารถสูง อันจะเป็นกำลังสำคัญในการช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนครูวิทยาศาสตร์ และครูคณิตศาสตร์ที่จะเป็นผู้นำทางด้านวิชาการในโรงเรียน โดยความร่วมมือของ 3 หน่วยงานคือ กระทรวงศึกษาธิการ ทบวงมหาวิทยาลัย (สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาในปัจจุบัน) และสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) โดยมีเป้าหมายผลิตครูที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ปีละประมาณ 580 คน
สาขาวิชาที่ให้ศึกษาในโครงการ สควค.
1) ระดับปริญญาตรี กำหนดให้เรียนหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต ในคณะวิทยาศาสตร์/วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในสาขาวิชาเคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ และ คอมพิวเตอร์ เป็นเวลา 4 ปี
2) ระดับประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู ให้เรียนในหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู ในคณะศึกษาศาสตร์ / ครุศาสตร์ / ครุศาสตร์อุตสาหกรรม / สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ เป็นเวลา 1 ปี 3) ฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูในโรงเรียนที่องค์กรวิชาชีพครูรับรอง เป็นเวลา 1 ปี (สำหรับผู้เริ่มรับทุนในปีการศึกษา 2547 เป็นต้นไป) 4) ระดับปริญญาโทถึงเอกและปริญญาเอก ให้เรียนหลักสูตรปริญญาโทถึงเอก เป็นเวลา 5 ปี หรือปริญญาเอก เป็นเวลา 3 ปี ในสาขาวิทยาศาสตรศึกษาและคณิตศาสตรศึกษา โครงการผลิตนักวิจัยพัฒนาด้านการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ที่จัดการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และศึกษาในต่างประเทศไม่เกิน 1 ปี
ทั้งนี้ สสวท. จะจัดค่ายปลูกฝังคุณลักษณะความเป็นครูและเสริมประสบการณ์วิชาชีพครู สำหรับนักศึกษาหลักสูตร ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู และปฐมนิเทศก่อนบรรจุเข้าปฏิบัติงานชดใช้ทุน ในโครงการ สควค. โดยจะจัดระหว่างวันที่ 9-15 มีนาคม 2551 ณ เดอะเลกาซี ริเวอรืแคว รีสอร์ท อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี กำหนดการ ดังแนบ
จึงเรียนมาเพื่อขอเรียนเชิญผู้สื่อข่าวในสังกัดของท่านร่วมทำข่าวกิจกรรมดังกล่าว โดยท่านสามารถระบุวัน ที่สะดวกจะเดินทางไปทำข่าวได้ เพื่อที่จะจัดการเรื่องที่พักและการเดินทางล่วงหน้า ทั้งนี้ โปรดแจ้งความจำนง ที่จะเดินทางไปทำข่าวไปยังส่วนประชาสัมพันธ์ สสวท. (ดุษฎี ดรุณี สินีนาฎ) โทร. 0-2392-4021 ต่อ 1112, 1114 — 1116 หรือสายตรง โทร. 0-2712-3604 ภายในวันที่ 5 มีนาคม 2551