กรุงเทพฯ--11 ต.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
แคนนอน เปิดตัวกล้องมิเรอร์เลสรุ่นล่าสุดในตระกูล EOS M ของแคนนอน คงเอกลักษณ์ของขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา อัดแน่นระบบติดตามออโต้โฟกัสอัจฉริยะ หน่วยประมวลผลภาพ DIGIC8 และเซ็นเซอร์ CMOS ความละเอียดสูง พร้อมจัดเต็มฟังก์ชันถ่ายภาพต่อเนื่องถึง 30 ภาพต่อวินาที มั่นใจไม่พลาดทุกช็อตสำคัญ
แคนนอน เปิดตัว Canon EOS M6 Mark II กล้องมิเรอร์เลสเปลี่ยนเลนส์ได้รุ่นล่าสุดในตระกูล EOS M เพิ่มประสิทธิภาพในการล็อคและติดตามออโต้โฟกัสที่รวดเร็ว เพื่อการจับภาพได้แม้ในช่วงเวลาที่คาดไม่ถึง มาพร้อมขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา อัดแน่นด้วยเซนเซอร์ APS-C CMOS ขนาด 32.5 ล้านพิกเซล และความสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงถึง 30 fps ในโหมด RAW burst ให้ผู้ใช้มั่นใจว่าสามารถจับภาพที่คมชัด ไม่พลาดทุกช็อตสำคัญ อีกทั้งผสมผสานระบบป้องกันภาพสั่นไหว แบบ Dual Sensing IS ช่วยลดการสั่น แม้ผู้ใช้จะเคลื่อนไหวในระหว่างการบันทึกวีดีโอ พร้อมด้วยความสามารถในการบันทึกวีดีโอ 4K แบบ uncropped ให้การถ่ายวีดีโอเป็นไปได้ในมุมมองที่กว้างขึ้น
ความสามารถหลากหลายในทุกโอกาส
Canon EOS M6 Mark II ขับเคลื่อนโดยหน่วยประมวลผลภาพ DIGIC 8 รุ่นล่าสุดของแคนนอน ให้การจับภาพเป็นไปได้ในทุกสถานการณ์ อีกทั้งประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมระดับคุณภาพกล้อง DSLR ในขนาดกะทัดรัด พร้อมด้วยเซ็นเซอร์ CMOS ความละเอียดสูง 32.5 ล้านพิกเซล ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายได้อย่างอิสระ ในทุกสภาพแสง อาทิ ภาพถ่ายยามพระอาทิตย์ตกที่มีสีสันสดใสแม้ในสภาพแสงน้อย ภาพทิวทัศน์ที่มีการไล่โทนสีภายใต้สภาวะคอนทราสต์สูง ทั้งนี้จากความสามารถในการถ่ายภาพและการแสดงออกที่หลากหลาย ทำให้ Canon EOS M6 Mark II เหมาะสำหรับการถ่ายภาพในทุกโอกาส ตั้งแต่ภาพเทือกเขาที่งดงาม ไปจนถึงภาพบรรยากาศที่คึกคักของตลาดกลางคืน ด้วยความคมชัดเต็มประสิทธิภาพ และสีสันที่สดใส
การจับภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเพราะ Canon EOS M6 Mark II ได้รับการออกแบบมาด้วยเทคโนโลยีโฟกัสอัตโนมัติแบบ Dual Pixel CMOS ของแคนนอน พร้อมด้วยระบบติดตามออโต้โฟกัสที่แม่นยำสูง และระบบตรวจจับดวงตาอัตโนมัติ ให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่ากล้องจะสามารถตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนไหวตลอดเวลาให้อยู่ในโฟกัสได้ และให้ภาพที่คุณภาพสูงและคมชัด นอกจากนี้ การเลือกตำแหน่งออโต้โฟกัสได้สูงสุดถึง 5,481 จุด ทำให้การเปลี่ยนตำแหน่งโฟกัสในเฟรมสามารถปรับเปลี่ยนได้บ่อยครั้งตามต้องการ
แม้การถ่ายภาพในบางสถานการณ์จะมีข้อจำกัดในเรื่องสภาพแสงน้อย แต่ Canon EOS M6 Mark II มาพร้อมความสามารถโฟกัสแม่นยำในที่แสงน้อยถึง EV-5 ซึ่งสามารถโฟกัสวัตถุได้แม้ในที่มืด อาทิ ถนนที่มีแสงไฟสลัว หรือบ้านที่ใช้แสงไฟนุ่มนวล
กล้อง Canon EOS M6 Mark II สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงถึง 30 fps ในโหมด RAW burst ทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพหลายภาพได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถเลือกภาพถ่ายช็อตประทับใจที่สุดได้จากภาพทั้งหมด นอกจากนี้ ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ของกล้องยังช่วยให้ช่างภาพงานแต่งงานสามารถถ่ายภาพได้อย่างไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงชัตเตอร์จะรบกวนบรรยากาศในงาน
ปลดล็อกศักยภาพการถ่ายทำ VLOG
ผู้ใช้กล้อง Canon EOS M6 Mark II จะสามารถเข้าสู่โลกแห่งการสร้างสรรค์วีดีโอผ่านจินตนาการได้อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยตัวเลือกการถ่ายวีดีโอ 4K แบบ uncropped ทำให้ได้มุมมองของวีดีโอแบบเต็มเลนส์ ดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น อีกทั้งฟังก์ชันการถ่ายทำวีดีโอแบบ super slow-motion ด้วยการบันทึกวีดีโอที่ 120p/100p ในรูปแบบ Full High Definition (FHD) ทำให้ได้ฟุตเทจslow-motion มุมกว้างอย่างมีสไตล์ ในมุมมองที่ต่างออกไป
ด้วยหน้าจอ LCD ขนาด 3.0 นิ้ว ที่ปรับหมุนลงได้ 45 องศา และปรับขึ้นได้ถึง 180 องศา ผู้ใช้จึงสามารถสร้างสรรค์มุมถ่ายภาพได้อย่างหลากหลาย ตลอดจนมุมถ่ายวีดีโอที่ใหม่ๆ ไม่ซ้ำใคร คุณสมบัตินี้ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถเช็คความพร้อมของตัวเองก่อนกดชัตเตอร์ถ่ายเซลฟี่ได้
ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 5 แกน ช่วยลดการสั่น เพื่อการบันทึกวีดีโอที่คมชัดยิ่งขึ้น แม้ในขณะที่ผู้ใช้หรือกล้องกำลังเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการเดินบันทึกภาพในงานอีเวนต์ หรือแม้แต่ขณะบันทึกภาพก้าวเดินแรกของเด็กทารก Canon EOS M6 Mark II สามารถบันทึกวีดีโอได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้เพื่อให้มั่นใจถึงคุณภาพเสียงชั้นยอด ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ไมโครโฟนที่ติดตั้งในตัวกล้อง หรือไมโครโฟนที่เสียบภายนอก เพื่อบันทึกเสียงรอบข้าง และบทสนทนาของผู้ที่เสียบไมโครโฟน ได้เช่นเดียวกัน
ใช้งานง่าย พกพาสะดวก
Canon EOS M6 Mark II ได้รับการออกแบบอย่างมีสไตล์ เพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยขนาดที่กะทัดรัด น้ำหนักเบากว่ากล้อง DSLR ระดับกลางเกือบครึ่งหนึ่ง ให้ผู้ใช้สามารถพกพาไปในกระเป๋าเสื้อ หรือช่องใส่ของเล็กๆ ในกระเป๋าถือได้ พร้อมทั้งคุณสมบัติการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน ทำให้ผู้ใช้สามารถเริ่มถ่ายภาพได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องวุ่นวายกับการหาฟังก์ชันต่างๆ ของกล้อง
กล้อง Canon EOS M6 Mark II รองรับการใช้งานผ่านช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์วิวไฟน์เดอร์ EVF-DC2 ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบกรอบภาพ และปรับการตั้งค่าภาพในขณะที่ยังปิดกล้อง เพื่อเตรียมพร้อมถ่ายภาพได้อย่างมั่นใจ ตัวเลือกนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อถ่ายภาพในสภาพแสงจ้า ซึ่งทำให้เกิดแสงสะท้อนบนหน้าจอ LCD การแตะและลากออโต้โฟกัส ในขณะใช้งาน EVF-DC2 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถย้ายจุดโฟกัสไปรอบๆ ในขณะที่ยังคงจับตามองผ่านช่องมองภาพอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการใช้งานไปพร้อมกันได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้การเลือกโฟกัสบนจอ LCD นั้นทำได้ง่ายๆ เพียงแค่แตะนิ้วบนหน้าจอ LCD ผู้ใช้จะสามารถสลับโฟกัสไปจุดต่างๆ ได้ตามที่ต้องการ
การเชื่อมต่อที่ง่าย สะดวกสบาย
เนื่องด้วยการเชื่อมต่อเป็นสิ่งสำคัญในกล้องทุกวันนี้ Canon EOS M6 Mark II ให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อบลูทูธเข้ากับอุปกรณ์และการเชื่อมต่อ Wi-Fi ในตัวได้ตลอดเวลา ทำให้ผู้ใช้สามารถอัปโหลดภาพถ่ายและวิดีโอโดยตรงไปยังโซเชียลมีเดียโดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ อีกทั้งการถ่ายโอนวิดีโอ 4K จากกล้องที่เป็นเรื่องง่าย โดยวีดีโอจะถูกบีบอัดอัตโนมัติเป็น Full HD ก่อนการถ่ายโอน เนื้อหาต่างๆ สามารถถูกถ่ายโอนไปยังคอมพิวเตอร์ได้อย่างง่ายดายเพื่อการแก้ไขหรือสำรองข้อมูล
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้สมาร์ทโฟนเป็นช่องมองภาพได้ หรือเป็นรีโมตคอนโทรลได้ด้วยแอปพลิเคชัน Canon Camera Connect เพียงแค่เชื่อมต่อ Canon EOS M6 Mark II กับอุปกรณ์มือถือที่รองรับ ผู้ใช้จะสามารถใช้แอปฯ Canon Camera Connect ในการควบคุมกล้องจากระยะไกลเพื่อถ่ายภาพและวิดีโอได้ที่น่าทึ่ง
Canon EOS M6 Mark II วางจำหน่ายแล้วที่ร้านค้า Big Camera ทุกสาขา โดยมีให้เลือก 2 สี คือสีดำ และสีเงิน พร้อม 2 ชุด kit ให้เลือก ดังนี้
- Canon EOS M6 Mark II EF-M 15-45mm 35,990 บาท
- Canon EOS M6 Mark II EF-M 18-150mm 46,990 บาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ Call Center โทร 0-2344-9988 หรือเว็บไซต์ https://th.canon และ facebook.com/canon.thailand
เกี่ยวกับแคนนอน :
แคนนอนมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีไอทีอันทันสมัยเพื่อตอบสนองและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานทั้งที่บ้านและสำนักงาน อีกทั้งยังมุ่งหน้าทำวิจัยและหากระบวนการในการผลิตสินค้าโดยคำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม สร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานอันถูกสุขลักษณะและปลอดภัย พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพดีให้กับลูกค้า ปัจจุบัน แคนนอนมีบริษัทในเครือมากกว่า 200 บริษัทและมีพนักงานมากกว่า 160,000 คนทั่วโลก โดยบริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ดำเนินกิจการในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ 2537 และครบ 25 ปี ในปี พ.ศ 2562 นี้ แคนนอนยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และและโซลูชันใหม่ๆ เพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย และง่ายยิ่งขึ้นสำหรับผู้บริโภค และภาคธุรกิจ ผ่านการจัดกิจกรรม สินค้า และบริการภายใต้แนวคิด "25 Delightful year Thailand" ตลอดปี