กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--ลุมพินี ทาวเวอร์
ลุมพินี ทาวเวอร์ : LPN ประเดิมลุมพินี วิลล์ รามคำแหง 26 กวาดยอดขายทะลุเป้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการโฟกัสทำเล และกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำ ชัดเจน ส่งผลให้เป็นตลาดที่ไร้คู่แข่ง เตรียมจ่อคิวขายคอนโดย่านฮอต ปิ่นเกล้า-พระราม 8 ที่ LPN ครองตลาดอยู่ ในปลายมีนาคม นี้ คาดปิดการขายได้รวดเร็ว ด้วยฐานลูกค้าจำนวนมากที่มีความเชื่อมั่นในแบรนด์ และการบริหารจัดการชุมชน
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) กล่าวถึงผลตอบรับที่ดีจากการเปิดขายโครงการลุมพินี วิลล์ รามคำแหง 26 ว่าเพียงวันเดียวจากการเปิดขาย สามารถทำยอดขายได้กว่า 50% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 1,200 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ทั้งหมดในเร็ววันนี้ ซึ่งความสำเร็จดังกล่าว เกิดจากความแม่นยำในการวิเคราะห์ทำเลและกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนที่ถือเป็นจุดแข็งและข้อได้เปรียบในการทำการตลาดของ LPN มาโดยตลอด จากผลการสำรวจระบุลูกค้ากว่า 90% ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง สอดคล้องกับการศึกษาก่อนหน้านี้ที่พบว่ามีกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากที่ต้องการที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง (Real Demand)
“จากการที่ LPN เข้าไปพัฒนาโครงการในย่านรามคำแหง จำนวน 3 โครงการ ภายใต้แบรนด์ “ลุมพินี วิลล์” และ “ลุมพินี คอนโดทาวน์” นั้น เพื่อเป็นการรองรับกลุ่มลูกค้าในทุกความต้องการอย่างครอบคลุม อย่างเช่นลูกค้าที่มีความต้องการห้องชุดพักอาศัยภายใต้งบประมาณไม่เกิน 1 ล้านบาท เราก็สามารถรองรับกำลังซื้อของลูกค้าด้วยการแนะนำให้ซื้อห้องชุดที่โครงการลุมพินี คอนโดทาวน์ บดินทรเดชา-รามคำแหง ได้ บริษัทฯ มีแนวคิดที่แตกต่างจากคู่แข่งในเรื่องของความใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อรับรู้ถึงความต้องการของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาสินค้าให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานชุมชน ซึ่งผลตอบรับจากการเปิดขายโครงการลุมพินี วิลล์ รามคำแหง 26 ทำให้ LPN มั่นใจในการพัฒนาสินค้า และมองว่าต้องพัฒนาโครงการในเชิงรุกมากยิ่งขึ้น จึงได้กำหนดแผนงานขายโครงการใหม่ในทันที ทั้งนี้ เพื่อรองรับความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของลูกค้าที่มีอยู่เป็นปริมาณมากทั่วกรุงเทพฯ”
สำหรับโครงการใหม่ที่กำลังจะเข้าไปพัฒนาในย่านพระราม 8 นี้ ทำเลดังกล่าวมีความน่าสนใจหลายประการ เนื่องจากเป็นทำเลที่ใกล้เคียงกับย่านปิ่นเกล้า ทั้งยังสะดวกในการเดินทางไปยังศูนย์กลางธุรกิจ และศูนย์การค้าที่เป็นแหล่งบันเทิงในทุกๆ ด้าน ซึ่งบริษัทฯ ประสบความสำเร็จมาแล้วใน 3 โครงการ ได้แก่ ลุมพินี เพลส ปิ่นเกล้า 1 ลุมพินี เพลส ปิ่นเกล้า 2 และ ลุมพินี สวีท ปิ่นเกล้า โดยทั้ง 3 โครงการสามารถปิดการขายได้ 100% ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว สำหรับสองโครงการแรก ภายใต้แบรนด์ “ลุมพินี เพลส” นั้น ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่แล้ว รวมทั้งหมด ประมาณ 1,800 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 3,600 ล้านบาท
“ทำเลย่านพระราม 8 มีความสะดวกต่อการเดินทางไปยังทุกจุดหมาย โดยมีสะพานพระราม 8 และสะพานพระปิ่นเกล้าที่สามารถเชื่อมต่อไปได้หลายเส้นทาง ทั้งนี้ เพราะทำเลดังกล่าวมีเส้นทางในการเดินทางให้เลือกอยู่มากมาย นอกจากนี้ ยังใกล้กับแหล่งช้อปปิ้ง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยต่างๆ อย่างครบครัน โดยการพัฒนาโครงการดังกล่าวเป็นการตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพของกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่ต้องการขยายครอบครัว แต่ยังสามารถอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว หรือถิ่นฐานเดิมของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็น พระราม 8 ปิ่นเกล้า อรุณอัมรินทร์ ถนนราชดำเนิน ตลอดจนรอบเกาะรัตนโกสินทร์ และฝั่งธนบุรี” นายโอภาส กล่าวในที่สุด