กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--สยาม มิชลิน
มิชลิน ร่วมกับ IFPEN และ Axens ประกาศที่จะสร้างโรงงานต้นแบบสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตบิวทาไดอีนจากไบโอเอทานอลขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศฝรั่งเศส
เปิดตัวเมื่อปลายปี 2012 โครงการไบโอบัตเตอร์ฟลายมีวัตถุประสงค์ในการผลิตบิวทาไดอีนจากเอทานอลจากชีวมวล (พืชชนิดต่างๆ) เพื่อใช้ผลิตยางสังเคราะห์ชนิดใหม่ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
บิวทาไดอีนคืออะไร
บิวทาไดอีนเป็นสารประกอบชนิดหนึ่งที่ในปัจจุบันผลิตจากน้ำมันและเป็นหนึ่งในสารที่มักถูกนำไปใช้ในการผลิตยางสังเคราะห์ ในแต่ละปีผู้ผลิตทั่วโลกมีการใช้บิวทาไดอีนคิดเป็นปริมาณรวมกันมากกว่า 12 ล้านตัน ซึ่งราว 40% นั้นเป็นการใช้เพื่อผลิตยางรถยนต์
การสร้างโรงงานต้นแบบอุตสาหกรรมในครั้งนี้จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายปี 2019 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2020 โดยจะก่อสร้างขึ้นในพื้นที่โรงงานของมิชลินในเมืองบาสซ็อง (Bassens) ใกล้กับเมืองบอร์โด (Bordeaux) ซึ่งที่นั่นมิชลินมีการใช้บิวทาไดอีนจากปิโตรเลียมในการผลิตยางสังเคราะห์ขึ้นเพื่อใช้ในตลาดยุโรปอยู่ก่อนหน้าแล้ว โครงการไบโอบัตเตอร์ฟลายได้รับเงินสนับสนุนรวมทั้งสิ้น 70 ล้านยูโร และจะทำให้เกิดการจ้างงานราว 20 ตำแหน่ง ณ ที่แห่งนี้
จากการผลิตเพียงไม่กี่กรัม… สู่ 100,000 ตัน
เริ่มต้นจากการผลิตในปริมาณเพียงแค่ไม่กี่กรัมเพื่อทดสอบในห้องปฏิบัติการอยู่หลายปี ต่อมาจึงมีการพัฒนาเป็นโครงการนำร่องขึ้นที่ IFPEN ในเมืองลียง (Lyon) โดยมีการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นหลายร้อยกรัม และในที่สุดได้กลายมาเป็นการผลิตในโรงงานต้นแบบ ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่จะทดสอบกระบวนการผลิตที่มีความสมบูรณ์เต็มรูปแบบ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความพร้อมในทางเทคโนโลยีและทางเศรษฐกิจสำหรับการผลิตเป็นจำนวนมาก (20-30 ตันต่อปี) ก่อนที่จะนำกระบวนการนี้ไปใช้ผลิตในรูปแบบอุตสาหกรรม (100,000 ตันต่อปี) และให้ Axens ดูแลด้านการประชาสัมพันธ์และทำตลาด
ภายในโรงงานจะมีการทดสอบการใช้เอทานอลจากชีวมวลทุกชนิด รวมถึงเอทานอลที่ไม่ได้ผลิตขึ้นจากวัตถุดิบที่เป็นอาหาร (เจนเนอเรชั่น 2) แต่จะผลิตจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรและการทำป่าไม้ เช่น ฟางและเศษไม้ เป็นต้น
โรงงานแห่งนี้จะมีหน้าที่ตรวจสอบความสมบูรณ์ของกระบวนการที่ IFPEN เป็นผู้พัฒนาขึ้น ซึ่งกระบวนการนี้สุดท้ายแล้วจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีสีเขียวที่ Axens จะเป็นผู้ทำการตลาด และกระบวนการนี้ยังจะทำให้มิชลินมั่นใจว่าจะสามารถเข้าถึงบิวทาไดอีนได้อย่างที่ต้องการและยังเป็นการสนับสนุนให้เกิดการสัญจรอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายของมิชลินด้วย
การตัดสินใจผนึกกำลังครั้งนี้ได้สร้างมิติใหม่ให้กับโครงการไบโอบัตเตอร์ฟลาย ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานสิ่งแวดล้อมและการจัดการพลังงานฝรั่งเศส (French Agency for Environment and Energy Management หรือ ADEME) ภายใต้โครงการการลงทุนเพื่ออนาคต (The Investments for the Future) โดยแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจของพันธมิตรทางธุรกิจที่ช่วยกันลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตยางสังเคราะห์จากวัตถุดิบตั้งต้นชีวภาพขึ้น และยังทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะศึกษาค้นคว้าและคิดหาวิธีใหม่ๆ เพื่อพัฒนาให้เกิดการทำอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนมากขึ้น
Florent Menegaux (ประธานกรรมการบริหารของมิชลิน) - 'การตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมของบริษัทเป็นเอกลักษณ์องค์กรอย่างหนึ่งของมิชลินกรุ๊ปในฐานะที่เป็นผู้บุกเบิกและผู้นำในการสร้างการสัญจรอย่างยั่งยืน ภายในปี 2050 วัตถุดิบที่เราใช้ในการผลิตยาง 80% จะเป็นวัสดุที่มีความยั่งยืน เราคาดหวังว่าไบโอบิวทาไดอีนจะทำให้เป้าหมายนี้สำเร็จลุล่วงไปแล้วถึง 20%'
Didier Houssin (ประธานของ IFPEN) - 'IFPEN มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการผลิตผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบตั้งต้นชีวภาพและเชื้อเพลิงชีวภาพขึ้น และในโครงการไบโอบัตเตอร์ฟลายนี้การค้นคว้าวิจัยของเรามีส่วนช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างการใช้พลังงานในระยะยาวให้กับภาคอุตสาหกรรม'
Jean Sentenac (ประธานและประธานกรรมการบริหารของ Axens) - 'โครงการนี้ทำให้ Axens ซึ่งเป็นผู้จัดหาเทคโนโลยีในการผลิตสารตั้งต้นปิโตรเคมีซึ่งเป็นที่รู้จักดีอยู่แล้วทั่วโลกได้มีโอกาสขยายฐานการให้บริการของบริษัทไปยังตลาดสารเคมีจากวัตถุดิบตั้งต้นชีวภาพ'
ไบ qไบไบโอบัตเตอร์ฟลายเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจาก ADEME (French (Agency for Environment and Energy Management) ภายใต้โครงการ The Investments for the Future
เกี่ยวกับมิชลิน
มิชลินมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพเพื่อให้ลูกค้ามีการสัญจรอย่างยั่งยืน ในฐานะที่เป็นผู้นำแห่งการเดินทางเคลื่อนที่ มิชลินมีการออกแบบ ผลิต และจำหน่ายยางรถยนต์ที่สอดคล้องกับความต้องการและการใช้งานของลูกค้ามากที่สุด ควบคู่ไปกับการนำเสนอบริการและโซลูชั่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง นอกจากนี้ มิชลินยังมีบริการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าเฉพาะราย และมีการคิดค้นพัฒนาวัสดุไฮเทคสำหรับการใช้งานบนสภาพถนนที่หลากหลายด้วย มิชลินมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแกลร์มง-แฟร็อง (Clermont-Ferrand) และมีสำนักงานอยู่ใน 170 ประเทศ มีการจ้างงาน 125,000 ตำแหน่ง และมีโรงงานผลิตยางรถยนต์ 67 แห่ง ซึ่งในปี 2018 ทั้งหมดมีการผลิตยางรถยนต์รวมกันประมาณ 190 ล้านเส้น (www.michelin.com) สื่อมวลชลสัมพันธ์: Corinne Meutey 01 78 76 45 27, 06 08 00 13 85
เกี่ยวกับ IFPEN
IFP Energies nouvelles (IFPEN) เป็นองค์กรที่ศึกษาค้นคว้าวิจัยและให้การอบรมด้านพลังงาน การขนส่ง และสิ่งแวดล้อม และตั้งแต่ขั้นตอนการศึกษาวิจัยไปจนถึงการทำธุรกิจ นวัตกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในกิจกรรมการดำเนินงานทั้งหมดของบริษัทโดยยึดมั่นอยู่บนหลักการ 3 อย่าง อันได้แก่ การสัญจรอย่างยั่งยืน พลังงานหมุนเวียน และการใช้น้ำมันและแก๊สอย่างรับผิดชอบ สื่อมวลชลสัมพันธ์: Anne-Laure de Marignan: +33 (0)1 47 52 62 07, presse@ifpen.fr
เกี่ยวกับ Axens
Axens (www.axens.net) ให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการแบบครบวงจรในการเปลี่ยนโครงสร้างของน้ำมันและชีวมวลเพื่อให้ได้น้ำมันที่สะอาดมากขึ้น การผลิตและกลั่นสารมัธยันตร์ในปิโตรเคมี รวมถึงการบำบัดและแปรสภาพแก๊ส โดยมีสินค้าและบริการที่ครอบคลุมทั้งเทคโนโลยี อุปกรณ์ เตาหลอม หน่วยเครื่องมือเคลื่อนที่ ตัวเร่งปฏิกิริยา สารดูดซับ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง Axens มีหน้าที่ดูแลห่วงโซ่คุณค่าจนครบกระบวนการ ตั้งแต่การศึกษาถึงความเป็นไปได้ตลอดจนการติดตั้งหน่วยเครื่องมือในการดำเนินงานและติดตามผลตลอดวัฏจักรการทำงานของเครื่อง Axens ควบคุมดูแลทุกขั้นตอนเพื่อให้เกิดประสิทธิผลในการทำงานมากที่สุดและยังให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ในการให้บริการในระดับสากลนั้น Axens ให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์ให้มีความเชี่ยวชาญในระดับสูง การใช้อุปกรณ์การผลิตที่ทันสมัย และมุ่งเน้นขยายเครือข่ายสู่ระดับนานาชาติทั้งในด้านอุตสาหกรรมและการสนับสนุนช่วยเหลือในด้านเทคนิคและการบริการทางธุรกิจ Axens เป็นบริษัทย่อยสาขาหนึ่งที่อยู่ภายใต้ The IFP Energies nouvelles Group สื่อมวลชลสัมพันธ์: Corinne Garriga +33 (0)1 47 14 25 14, corinne.garriga@axens.net