กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--กรมป่าไม้
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ชี้แจง กรณีมีประชาชนที่อาศัยใน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ร้องเรียนว่ามีการ บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ และมีการสร้างบ้านเพื่อนำไปขายให้กับชาวต่างชาติ ภายหลังทราบเรื่อง ตนได้สั่งการไปยังสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ให้ดำเนินการตรวจสอบทันที ทั้งนี้ ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบกรณีร้องเรียนดังกล่าว และเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2562 นายสายพิน เปียสวน ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า พร้อมด้วย ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้เชียงใหม่ และหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.13 (สันป่าตอง) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแปลงที่ดินจำนวน 2 แปลง ปรากฏว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ท่าช้างและป่าแม่ขนิน ท้องที่ หมู่ที่ 11 ตำบลน้ำแพร่ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่โครงการจัดการทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ให้กับราษฎรได้อยู่อาศัย ทำกิน ในส่วนแปลงที่ 1 เป็นของนางนิลพรรณ กุลนันพิพัฒน์ เนื้อที่ 1 ไร่ 45 ตารางวา และแปลงที่ 2 เป็นที่ดิน ของนายสว่าง ไกรศรีพันธุ์ เนื้อที่ 2 ไร่ 1 งาน 50 ตารางวา ซึ่งพื้นที่ทั้ง 2 แปลง เจ้าของให้ความยินยอมกับนางนพมาศ แจ้งกระจ่าง
ซึ่งไม่ได้เป็นบุคคลในครอบครัวในการใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว และยินยอมให้สร้างบ้านพัก จำนวน 2 หลัง นำไปขายต่อ ให้กับชาวต่างชาติเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการผิดต่อเจตนาที่มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 มุ่งเน้นในการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทำกิน ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติให้กับราษฎรที่ไม่มีที่ดินทำกินเพื่อเพียงพอ
ต่อการดำรงชีพ ทั้งนี้ ทางคณะทำงานจึงมีความเห็นให้ยกเลิกผลการรังวัดแปลงที่ดินตามโครงการจัดการทรัพยากรที่ดิน และป่าไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ท่าช้าง และป่าแม่ขนิน เนื่องจากยินยอมให้บุคคลอื่นที่มิใช่คนในครอบครัวเข้ามา ทำประโยชน์ร่วม ซึ่งเป็นการผิดวัตถุประสงค์ของโครงการโดยสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ได้มีหนังสือแจ้งยกเลิกแปลงที่ดินทั้ง 2 แปลง ของนางนิลพรรณ กุลนันพิพัฒน์ และนายสว่างไกรศรีพันธุ์ โดยได้ส่งหนังสือแจ้งให้ทั้ง 2 ราย ได้ทราบ พร้อมทั้งได้เข้าไปดำเนินการตรวจยึดพื้นที่และได้แจ้งความดำเนินคดี กับนางนพมาศ แจ้งกระจ่าง กับพวก ในข้อหากระทำผิดตามมาตรา 14, 31 พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ และมีการลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรหางดง จ.เชียงใหม่ แล้ว
นอกจากนี้อธิบดีกรมป่าไม้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจทั่วประเทศ หากพบว่าราษฎรรายใดที่นำพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ได้จัดที่ดินให้อยู่อาศัยทำกินไปทำประโยชน์ผิดวัตถุประสงค์ หรือขายต่อจะให้มีการยึดคืนพร้อมทั้งดำเนินคดี ผู้ที่ครอบครองปัจจุบัน