กรุงเทพฯ--17 ต.ค.--บีเอเอสเอฟ
บีเอเอสเอฟเชิญชวนให้เหล่านักวิจัยและนักวิชาการในเอเชียแปซิฟิกส่งแผนงานการวิจัยไปยังโครงการเงินทุนวิจัยสำหรับหัวข้อด้านโภชนาการในเอเชียประจำปี พ.ศ. 2563 ซึ่งโครงการได้ดำเนินมาเป็นครั้งที่เจ็ดแล้วจนถึงวันนี้ และมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนนักวิชาการเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูงสำหรับประเด็นข้อกังวลด้านสุขภาพและโภชนาการที่เร่งด่วนที่สุดสำหรับผู้บริโภคในภูมิภาคนี้
การวิจัยจะเน้นไปที่สามหัวข้อหลัก ได้แก่ การส่งเสริมภูมิคุ้มกัน สุขภาพหัวใจและหลอดเลือด การเคลื่อนไหวและการทำงานของร่างกาย โดยโครงการในปีนี้จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับหน้าที่ทางชีววิทยาของโอลิโกแซคคาไรด์ในน้ำนมมนุษย์ (HMOs) เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันและสุขภาพของระบบเผาผลาญ เงินทุนวิจัยจำนวนสองในห้าทุนจะถูกมอบให้กับโครงการที่ดำเนินการค้นคว้าบทบาทของโอลิโกแซคคาไรด์ในน้ำนมมนุษย์ที่มีต่อสุขภาพของมนุษย์ โดยโอลิโกแซคคาไรด์ในน้ำนมมนุษย์เป็นกลุ่มที่มีโครงสร้างและความหลากหลายทางชีวภาพของน้ำตาลที่ไม่สามารถย่อยได้เชิงซ้อนที่มีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติในน้ำนมแม่ การศึกษาล่าสุดแสดงให้เห็นว่าโอลิโกแซคคาไรด์ในน้ำนมมนุษย์มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหาร (gut microbiome)
"ทุนวิจัยด้านโภชนาการแห่งเอเชียสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบีเอเอสเอฟที่มีต่อนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ผ่านการเป็นพันธมิตรกับชุมชนด้านวิชาการซึ่งเป็นเวทีที่ยอดเยี่ยมสำหรับเราในการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับนักวิจัยและพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อจัดการปัญหาความจำเป็นด้านสุขภาพที่แพร่หลายและเกิดขึ้นใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกผ่านโซลูชั่นโภชนาการทางวิทยาศาสตร์" กล่าวโดย ทิน่า โลว์ รองประธานฝ่ายการบริหารธุรกิจระดับโลก แผนกโภชนาการมนุษย์ของบีเอเอสเอฟ "ในปีนี้เรามุ่งเน้นการสนับสนุนการวิจัยเกี่ยวกับโอลิโกแซคคาไรด์ในน้ำนมมนุษย์ รวมถึง 2'-Fucosyllactose - PREBILAC(TM) ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ของบีเอเอสเอฟ สามารถช่วยรับมือกับความท้าทายด้านระบบการเผาผลาญอาหารและภูมิคุ้มกันที่ประชากรในภูมิภาคนี้ต้องเผชิญ" กล่าวเสริมโดยทิน่า โลว์
กำหนดส่งแผนงานวิจัยคือวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2563 ซึ่งแผนงานวิจัยทั้งหมดจะได้รับการประเมินและคัดเลือกโดยคณะผู้เชี่ยวชาญซึ่งรวมถึงนักวิชาการที่มีชื่อเสียงและผู้นำความคิดเห็นทางด้านโภชนาการของมนุษย์ ทั้งนี้นักวิจัยจำนวนห้ารายจะได้รับการแจ้งผลในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2563 ถึงการตอบรับของโครงการวิจัยและจะได้รับเงินทุนวิจัยสูงสุดจำนวน 40,000 ยูโรต่อโครงการ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2563 โดยนักวิจัยจะได้รับเวลา 18 เดือน ในการดำเนินโครงการวิจัยของตน
นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งโครงการเงินทุนวิจัยสำหรับหัวข้อด้านโภชนาการในเอเชียในปี พ.ศ. 2555 บีเอเอสเอฟได้มอบเงินทุนวิจัยไปแล้วกว่า 30 โครงการในออสเตรเลีย จีน อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ผลลัพธ์การวิจัยจาก 15 โครงการ ได้รับการนำเสนอในการประชุมและการสัมมนาทางวิทยาศาสตร์ โดยมีงานวิจัยจำนวนแปดฉบับที่ผ่านการรับรองโดยคณะผู้เชี่ยวชาญได้รับการตีพิมพ์
สำหรับหลักเกณฑ์โดยละเอียด ข้อกำหนด และข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับโครงการสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://nutrition.basf.com/en/Human-nutrition/Cooperations.html หรือทางอีเมลที่ nutrition-research-grant@basf.com