กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--เอกชัยการแพทย์
เซียนหุ้นเชียร์ "ซื้อ" หุ้น บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) ประเมินกำไรไตรมาส 3/62 ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง อานิสงส์เข้าสู่ช่วง high season มีคนไข้ใช้บริการเพิ่ม รวมทั้งได้รับปัจจัยบวกจากศูนย์ IVF และเตรียมเปิดศูนย์เฉพาะทางเพิ่ม หนุนรายได้โตเต็มพิกัดชี้เป้าหมายราคาพื้นฐานใหม่ไว้ที่ 9 บาทต่อหุ้น
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ ระบุว่า ฝ่ายวิจัยได้แนะนำ "ซื้อ" หุ้นบริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) (EKH) โดยประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/62 ไว้ที่ 48 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน) ซึ่งถือเป็นการทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง โดยกำไรเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาจากปัจจัยฤดูกาล ซึ่งเข้าสู่ช่วง high season และหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเติบโตในอัตราที่ลดลงจากครึ่งแรกปี 2562 ที่เติบโตถึง 88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากฐานกำไรที่สูงในปีก่อน
อย่างไรก็ตาม รายได้จากการให้บริการยังเติบโตสูง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 223 ล้านบาท จาก 1.กลุ่มคนไข้เงินสด โดยคาดอัตราการใช้บริการของ IPD ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส3/61 ที่ 60% เป็น 71% 2.รายได้จากศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเฉลี่ย 35 เคส/ไตรมาส ปีก่อนเป็น 60 เคส
ทั้งนี้ จากการที่บริษัทฯมีแผนเปิดศูนย์การแพทย์เฉพาะทางต่อเนื่อง โดยเดือนตุลาคม เตรียมเปิดศูนย์กุมารเวชแห่งใหม่ ขนาด 60 เตียง ซึ่งจะช่วยลดความแออัด จากที่ศูนย์กุมารเวชเดิมค่อนข้างหนาแน่น ซึ่งคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าเสื่อมราคา แต่คาดว่าจะมีรายได้เข้ามาชดเชยได้เกือบทั้งหมด โดยบริษัทฯตั้งเป้าว่าสามารถทำกำไรได้ในปีแรก
นอกจากนี้ ในไตรมาส 4/62 ยังเตรียมเปิดศูนย์เฉพาะทางเพิ่มได้แก่ ศูนย์ ตา หู คอ จมูก และ ศูนย์ทันตกรรมช่วยเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้ป่วยเฉพาะทางที่มีรายได้ ต่อหัวที่สูงขึ้น
"ภาพรวมปี 2562 ทางฝ่ายวิจัยประมาณการกำไรสุทธิที่ 152 ล้านบาท เติบโต 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่บริษัทมีแผนจะเปิดศูนย์ผู้สูงอายุในปี 2564 สอดคล้องกับข้อมูลของ United Nations World Population Aging ที่คาดการณ์ว่าในปี 2564 ไทยจะเข้าสู่สังคมประชากรสูงวัยแบบสมบูรณ์ โดยมีผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี เกิน 20% ของจำนวนประชากรทั้งหมด หนุนให้ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องในระยาว"
ด้วยแนวโน้มผลประกอบการที่เติบโตเด่นสุดในกลุ่มโรงพยาบาล ด้านสถานะทางการเงินของ EKH ค่อนข้างแข็งแกร่ง ไม่มีภาระหนี้ และระดับ ROE ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อนที่ 13.9% เป็น 17% ฝ่ายวิจัยจึง แนะนำ "ซื้อ" โดยปรับราคาเหมาะสมปี 2563 ที่ 9.00 บาท จากเดิมที่ 8.50 บาท อิงวิธี DCF ด้วย WACC ที่ 8 % และ Terminal Growth 3%