กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์
ผมมีโอกาสได้ชมสารคดีชุดนี้ ต้องบอกว่าเป็นประโยชน์มากครับ เพราะทำให้เราเห็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกี่ยวกับโลกของเราได้อย่างชัดเจน ถึงแม้เราอาจจะมองว่ามันไม่เกี่ยวข้องกับเราเท่าใดนัก แต่จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรามาก ในรายการสารคดีนี้ได้กล่าวถึง การเปลี่ยนแปลงของโลกไว้ทั้งหมด เรื่องของดาวเคราะห์ที่พุ่งชนโลก แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด การสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ เรื่องทรัพยากรต่างๆ ของโลก ซึ่งมันทำให้เราได้รู้ว่าโลกนี้ไม่เคยหยุดนิ่ง
ผมขอยกตัวอย่างเรื่องราวที่น่าสนใจในสารคดี อย่างเรื่องของดาวเคราะห์ที่พุ่งชนโลกเมื่อ 4 พัน 6 ร้อยล้านปีก่อน ซึ่งทำให้สิ่งมีชีวิตในสมัยนั้นถูกทำลายจนเกือบหมดสิ้น สิ่งนี้ก็อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตเช่นกัน เหมือนกับภาพยนตร์เรื่อง Deep Impact ที่ได้สร้างขึ้นเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็น เรื่องราวของดาวหางดวงหนึ่งที่มาพุ่งชนโลก และมนุษย์ต้องทำการปกป้องโลกจากหายนะภัยนี้ ซึ่งจากเหตุการณ์ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ทางองค์การนาซ่าจึงได้จัดตั้งโครงการ Deep Impact ขึ้น และได้ดำเนินงานมาแล้ว 6 ปี ในการศึกษาเรื่องราวของดาวหาง Tempel 1 และเมื่อเดือนมกราคม ปี 2548 นาซ่าได้ส่งยาน Deep Impact ขึ้นไปโดยใช้เวลาเดินทางจากโลกจนถึงดาวหาง Tempel 1 เป็นเวลา 6 เดือน และได้ทำการปล่อยยานลูกพุ่งเข้าชนดาวหางเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เพื่อศึกษาดูสิ่งที่อยู่ภายในดาวหางนี้ โดยคาดหวังว่าจะสามารถเรียนรู้เรื่องการ ก่อกำเนิดของจักรวาล แหล่งที่มาของ “ชีวิต” บนโลกมนุษย์ และศึกษาเพื่อนำมาเป็นแนวทาง ในการป้องกันโลกจากการถูกดาวเคราะห์ต่างๆ ชนได้
นอกจากนี้ ในสารคดีได้พูดปิดท้ายได้ดีมากว่า ในปัจจุบันนี้มนุษย์ได้มายืนอยู่ตรงจุดที่กำลัง เผชิญหน้ากับอันตรายทั้งจากภัยธรรมชาติที่เริ่มรุนแรงมากขึ้น และ ภัยของมนุษย์เองที่ได้สร้างอาวุธในการทำลายล้างต่างๆ มากมาย ซึ่งในสารคดีนี้ก็ได้กล่าวถึงแนวทางการป้องกันและการ แก้ปัญหาได้ดีมากว่าพวกเราทุกคนควรต้องศึกษาและเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติไว้ เพื่อเตรียมพร้อมกับรับมือกับภัยทางธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
บทสัมภาษณ์ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช
ในงานเปิดตัวรายการสารคดี “Miracle Planet : เปิดบันทึกโลกมหัศจรรย์…กับฮอนด้า”
ในสมัยก่อนคนไทยไม่ค่อยได้รับการศึกษาในเรื่องของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเท่าใดนัก เราไม่เคยมีการสอนให้รู้จักภัยธรรมชาติ ไม่ว่าจะในระดับเยาวชน นักวิชาการ หรือผู้อาวุโส ซึ่งผมคิดว่าเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ที่ผ่านมา น่าจะเป็นบทเรียนให้กับพวกเราได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มันเคยเกิดขึ้นมาเมื่อ 80-90 ปีก่อน แต่คนไทยเราที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นสึนามิในสมัยนั้นอาจเสียชีวิตจนหมดแล้ว ทำให้ไม่มีการบันทึกเป็นพงศาวดารหรือเล่าต่อมายังลูกหลาน ซึ่งจะแตกต่างจากชาวมอร์แกนที่อาศัยอยู่ตามเกาะสุรินทร์ พวกเขาได้รับการสอนจากบรรพบุรุษว่าหากยืนอยู่บริเวณชายหาดแล้วรู้สึกว่าเกิดแผ่นดินไหวขึ้น แล้วหลังจากนั้นประมาณ 20-30 นาที หากน้ำทะเลในชายฝั่งได้ลดลงยาวเป็น 150 เมตร เขาจะรับรู้ไว้เลยว่าคลื่นยักษ์กำลังมา และเขาก็จะวิ่งหนีไปให้ไกลจากชายฝั่งมากที่สุดเพื่อเอาชีวิตรอด ดังนั้นจากการที่พวกเขาได้รับการสอน ตกทอดกันมายังลูกหลานเช่นนี้ จึงทำให้เหตุการณ์เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ที่ผ่านมา ไม่มีชาวมอร์แกนเสียชีวิตจากคลื่นยักษ์สึนามิเลย
บนโลกของเรามีเหตุการณ์ที่เป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์เกิดขึ้นมากมาย มนุษย์เรามีรอบชีวิตอยู่เพียงประมาณ 80-90 ปี แต่โลกของเรากำเนิดมาเป็นเวลา 4 พัน 6 ร้อนล้านปีแล้ว เราต้องเตรียมตัว และต้องศึกษาว่าเราจะมีชีวิตรอดอยู่กับโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาด้วยพลังงานของตัวเองนี้ได้อย่างไร เพราะฉะนั้นการเรียนรู้ธรรมชาติ อย่างที่สารคดีชุดนี้นำมาแสดงให้เห็น ผมว่ามันมีประโยชน์สำหรับคนไทยอย่างมาก
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--