ไทยยูเนี่ยนประเดิมอันดับ 1 ดัชนี Seafood Stewardship Index ปีแรก ตอบโจทย์การทำงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยองค์การสหประชาชาติ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 24, 2019 08:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ต.ค.--ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้รับการจัดอันดับโดยดัชนี Seafood Stewardship Index เป็นอับดับที่ 1 จาก 30 บริษัทด้านอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดทั่วโลก ประเมินจากการทำงานที่ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยองค์การสหประชาชาติ โดยไทยยูเนี่ยนขึ้นเป็นอันดับ 1 ใน 3 ด้าน ได้แก่ - การกำกับดูแลกิจการ จากรายงานด้านความยั่งยืนที่ลงรายละเอียด อันเป็นผลมาจากกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของบริษัท SeaChange(R) - ระบบนิเวศ จากการทำงานทั้งของบริษัทและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทในการพัฒนาการทำประมง - ด้านชุมชน จากการทำงานพัฒนาคุณภาพชีวิตและโอกาสของคนในชุมชน ดัชนี Seafood Stewardship Index หรือ SSI นี้จัดขึ้นโดยองค์กร World Benchmarking Alliance (WBA) ขึ้นเป็นปีแรก โดยได้ให้ความเห็นว่า ไทยยูเนี่ยนมีผลงานที่เข้มแข็งในเรื่องการดูแลห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการตรวจสอบย้อนกลับได้ การจัดหาวัตถุดิบ และพิมพ์เขียวสิ่งแวดล้อม รายงานได้ชี้ให้เห็นว่าไทยยูเนี่ยนมีความมุ่งมั่นในเรื่องสิทธิมนุษยชนและสิทธิแรงงาน และสามารถพัฒนาต่อไปได้ ดร.แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมกิจการองค์กรและความยั่งยืน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ไทยยูเนี่ยนมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 จากดัชนี Seafood Stewardship Index สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของบริษัทในการสร้างอุตสาหกรรมอาหารทะเลของโลกให้ยั่งยืนมากขึ้น อุตสาหกรรมอาหารทะเลควรจะมีการเชิดชูการทำงานอย่างโปร่งใส อีกทั้งยังควรพัฒนาในเรื่องของความรู้ความเข้าใจถึงปัญหาในปัจจุบันและดำเนินการแก้ไข ไทยยูเนี่ยนยินดีที่ดัชนี Seafood Stewardship Index ให้ความสำคัญในประเด็นต่างๆ ที่ควรมีความโปร่งใสและพัฒนาต่อไป" ดัชนี Seafood Stewardship Index ประเมินบริษัทอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 30 บริษัท เพื่อที่จะเข้าใจว่าบริษัทเหล่านี้ได้ทำงานอย่างไรและมากน้อยแค่ไหน ทั้งด้านที่เกี่ยวกับการจัดการอย่างยั่งยืนในมหาสมุทรและระบบนิเวศชายฝั่ง รวมถึงการทำงานที่ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยองค์การสหประชาชาติ การประเมินยังดูในรายละเอียดว่าบริษัทต่างๆ เหล่านี้ได้มีการปฏิบัติอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทานอย่างไรอีกด้วย ดัชนี Seafood Stewardship Index ชี้ว่าไทยยูเนี่ยนมีผลงานที่ยอดเยี่ยมในทุกด้าน - รวมถึงการกำกับดูแลกิจการ ที่ดำเนินตามกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange(R) ในโครงการต่างๆ ทั้งในด้านแรงงานที่ถูกกฎหมายและความปลอดภัยของผู้ใช้แรงงาน การจัดหาวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ การดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ความรับผิดชอบต่อผู้คนและชุมชน โดยตั้งเป้าหมายชัดเจนในแต่ละด้าน - การดูแลห่วงโซ่อุปทาน โดยสนับสนุนให้ผู้บริโภคเลือกผลิตภัณฑ์ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และมุ่งมั่นที่จะผลิตสินค้าแบรนด์ให้มีบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ รีไซเคิล หรือย่อยสลายได้ภายในปี 2568 - ระบบนิเวศ โดยทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ในโครงการอาทิ โครงการพัฒนาการประมงทูน่า เพื่อลดผลกระทบกับระบบนิเวศ - ด้านชุมชน มีการพัฒนาโครงการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนชุมชนรอบพื้นที่ที่บริษัทดำเนินธุรกิจอยู่ เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลาเกือบ 40 ปี วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุภาชนะชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 1.33 แสนล้านบาท (4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 47,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Ruegen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่ จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange(R) และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด ทำให้ในปี 2562 ไทยยูเนี่ยนได้เป็นผู้นำอันดับ 1 กลุ่มอุตสาหกรรมของโลกใน Food Industry ในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ และประสบความสำเร็จในการได้รับคะแนนเปอร์เซ็นไทล์สูงสุดที่ 100 ในคะแนนด้านความยั่งยืนทั้งหมด ปัจจุบันไทยยูเนี่ยนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index ในปี 2561 อีกด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ