กรุงเทพฯ--24 ต.ค.--ททบ.
เดินทางมาถึงตอนอวสานแล้ว สำหรับซี่รี่ส์ "เลือดสุพรรณ" ทางสถานีวิทยุกองทัพบกช่อง 5 บทสรุปต่างๆเริ่มคลี่คลาย ชาวเมืองสุพรรณต้องสู้แลกด้วยชีวิตเมื่อทัพพม่าบุกเข้าโจมตี เป็นอีกหนึ่งซีนที่นางเอกหน้าหวาน "แป้ง -พรภัสร์ชนก มิตรชัย" ประทับใจเพราะต้องสวมบทบู๊นำทีมเป็นหนึ่งเดียว เพื่อเมื่อสุพรรณ
เป็นตอนที่ กองทัพอังวะเข้ามาตีเมืองสุพรรณ แต่ดวงจันทร์(แป้ง-พรภัสร์ชนก)ขวางไว้ พริ้ง(หญิง-นพรัตน์) แก้ว(ฮันนี่-ไปรยาพิณ) เหมย(หลิว หยาง หยาง) ขวัญจิต(จูน-ณัฏญิชา) เสริมทัพเข้ามาช่วย ชาวบ้านทุกคนต่างออกมาสู้ ทำให้ดวงจันทร์ยิ่งฮึดสู้มากกว่าเดิม ดวงจันทร์กำดินโรยบนหัว ขอให้พระแม่ธรณีเป็นพยานในความจงรักภักดีต่อบ้านเกิดเมืองนอน ชาวเมืองสุพรรณต่อสู้กับอังวะจนสุดใจ
เบื้องหลังฉากนี้ได้ยกกองไปถ่ายทำกันที่สตูดิโอกันตนา ศาลายา ทีมงานเซตเป็นลานกว้างเซฟความปลอดภัยเต็มที่ เนื่องด้วยฉากนี้เป็นซีนไฮไลท์ของเรื่องอีกหนึ่งซีน นักแสดงและเอ็กตร้าร่วมร้อยชีวิต ผู้กำกับนุชิต นวลสกุล เลยให้นักแสดงทั้งหมดมาซักซ้อมบทกันให้เป๊ะก่อนที่จะถ่ายจริง เพราะซีนนี้ค่อนข้างใช้เวลาถ่ายทำนาน ถ้าคัทบ่อยจะเสียเวลาและอารมณ์ไม่ต่อเนื่อง เริ่มซ้อมทีล่ะคน เหล่าสาวๆถืออาวุธประจำกาย ทั้งเตะ ต่อย ผู้กำกับบอกว่ามีพลังเท่าไหร่ใส่มาให้หมด ดึงเลือดนักสู้ของตัวเองขึ้นมา เหล่าสาวๆก็ตั้งใจซ้อมบู๊กันจนรู้คิวตนเอง มาถึงฝั่งแป้งบ้างนอกจากจะต้องบู๊แล้ว บทยังยาวเกือบสองหน้ากระดาษ แถมยังต้องดราม่าปลุกพลังนักสู้ ให้ทุกคนสามัคคีกันอีก แต่เจ้าตัวก็มีสปิริตบอกพร้อมเต็มที่ เพราะก่อนที่จะถ่ายวันนี้ทำการบ้านมาอย่างดี เมื่อแป้งพร้อมทุกคนพร้อมเริ่มถ่ายจริงกันเลย แป้งเด็ดเดี่ยวใจกล้าเผชิญหน้ากับพวกอังวะ เหล่าสาวๆและชาวบ้านตามมาสบทบฮึดสู้กันหยดสุดท้าย ผู้กำกับให้คิวแป้งนั่งลงกำดินโรยบนหัว แสดงให้พระแม่ธรณีจงเป็นพยาน ในความจงรักภักดีต่อบ้านเกิดเมืองนอน แม้นว่าเราต่างต้องสูญเสียคนที่รักไปมากมายเท่าใด แต่จิตวิญญาณของชาวสุพรรณจะยังคงกล้าแกร่งและไม่ยอมให้ใครมาย่ำยีอีกแล้ว หากจะต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่ ทิ้งในแผ่นดินที่ข้ารักและศรัทธา แล้วใยข้าจะต้องเสียดายชีวิน พูดจบทุกคนต่างรุกเข้าหาทัพอังวะ แป้งโชว์อาวุธประจำกายใช้เคียวต่อสู้สุดใจ ภาพค่อยๆแพลนให้เห็นการต่อสู้ของหลายๆคู่อย่างยิ่งใหญ่บางคนล้มตาย บางคนยังสู้จนเลือดสุดท้าย ติดตามชมและให้กำลังใจชาวบ้านเมืองสุพรรณได้วันอาทิตย์ ที่ 27 ตุลาคม เวลา 20.20 น. ทางสถานีวิทยุกองทัพบกช่อง 5