กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ สำรวจสหกรณ์การเกษตรว่าต้องการให้มีการช่วยเหลืออย่างไรหลังมีการแบน3สารเคมี เพื่อจะได้นำมาเป็นชุดช่วยเหลือเกษตรกรสำหรับการผลิตสินค้าเกษตร ซึ่งเบื้องต้น กรมส่งเสริมสหกรณ์ รายงานว่า เตรียมผลักดันให้สหกรณ์จัดหาเครื่องจักรกลทางการเกษตรเพื่อให้บริการสมาชิกในราคาถูก ซึ่งจะทำรายละเอียดเพื่อเสนอ รมว.เกษตรฯพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรี
"ขณะนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด เดี๋ยวดิฉันจะเร่งดู แล้วเสนอรมว.เกษตรฯทันที ว่าจะใช้งบจากไหน เท่าไหร่ โดยยอมรับว่าการเลิกใช้ 3 สาร เกษตรกรอาจมองว่าเป็นเรื่องยาก แต่สามารถทำได้และจะต้องเริ่มทำเพื่อความปลอดภัยของเกษตรกรและผู้บริโภคและลดการป่วยของคนไทย"รมช.มนัญญากล่าว
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่าก่อนหน้าที่จะมีการลงมติแบน3สารเคมี 1 เดือน ได้ให้ทีมเจ้าหน้าที่กสส.ลงสอบถามสหกรณ์ถึงความต้องการของสมาชิกสหกรณ์ หากมีการแบน3สาร ซึ่งต้องเตรียมล่วงหน้า ไม่ว่าผลการพิจารณาของคณะกรรมการวัตถุอันตรายจะออกมาอย่างไรก็ตาม จะได้มีการช่วยเกษตรกรทันที เพราะช้าไม่ได้ แม้ขณะนั้นไม่มีใครคาดว่าจะแบนสารเคมีทั้ง3ตัวได้
ทั้งนี้ในการลงพื้นที่ปลูก อ้อย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง ยางพารา พบว่า ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ต้องมีการปรับรูปแบบการปลูกเรื่องระยะห่างเพื่อให้ใช้เครื่องจักรได้ และขณะนี้เกษตรกรหลายพื้นที่เริ่มมีการเตรียมปรับเปลี่ยนแล้ว
"มาตรการที่สำคัญที่เสนอให้ รมช.เกษตรฯพิจารณา คือการสนับสนุนให้สหกรณ์การเกษตร700 อำเภอ จัดหาเครื่องจักรกลทางการเกษตรไปบริการเกษตรกรในราคาถูก โดยกรมสนับสนุนเงินจ่ายขาดให้สหกรณ์ในการจัดหา ในเงื่อนไขที่กรมกำหนดคือราคาบริการต่อไร่ต้องถูก เพื่อลดการใช้แรงงานคน ทั้งนี้ในหลักการคือให้แต่ละสหกรณ์แจ้งความจำนงเข้ามา เพราะสหกรณ์จะทราบว่าสมาชิกแต่ละแห่งต้องใช้เครื่องจักรอะไรบ้าง เมื่อรมช.เห็นชอบจะเร่งทำรายละเอียดเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา" นายพิเชษฐ์กล่าว
ทั้งนี้กรมยังได้เตรียมประชาสัมพันธ์ให้ร้านค้าสหกรณ์เตรียมนำสารเคมีออกจากร้านค้าตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด