กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น
"RBF" เผยการตัดสิทธิ์ GSP ไม่กระทบธุรกิจบริษัท เนื่องจากส่งออกสินค้าไปขายโดยตรงน้อยและลูกค้ากลุ่มอาหารแช่แข็งก็มีฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซียและเวียดนาม เพราะราคาขายถูกกว่าประเทศไทย ย้ำหากผู้ประกอบการในประเทศไทยต้องการย้ายฐานการผลิตทางบริษัทก็มีความพร้อมเรื่องการบริหาร Supply Chain ให้กับลูกค้าอย่างแน่นอน
พ.ต.พญ.จัณจิดา รัตนภูมิภิญโญ กรรมการ บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน)หรือ RBF เปิดเผยว่า จากกรณีที่ประเทศสหรัฐอเมริการะงับการให้สิทธิทางภาษี(ศุลกากร)สินค้าส่งออกบางประเภทจากประเทศไทยนั้น ทางบริษัทคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจน้อย เนื่องจากสินค้าที่ส่งออกโดยตรงไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาของบริษัทอยู่ในกลุ่มอาหารแช่แข็งและอบแห้ง ซึ่งในปี 2561 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านบาทหรือคิดเป็น 0.2% ของยอดขายทั้งหมดของปี 2561 ที่อยู่ประมาณ 2,700 ล้านบาท
ขณะเดียวกันการส่งออกทางอ้อมซึ่งอยู่ในกลุ่มแป้งและซอส ที่บริษัทส่งเข้าโรงงานกลุ่มอาหารแช่แข็งนั้นส่วนมากผู้ประกอบการไม่ได้ส่งออกไปขายที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะราคาขายของประเทศไทยสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายของประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย ทำให้ทางประเทศสหรัฐอเมริกาได้ไปซื้ออาหารแช่แข็งจากทั้งสองประเทศมาได้ซักระยะหนึ่งแล้ว "ทางสหรัฐฯ เค้าซื้อ Frozen Seafood จากประเทศไทยน้อย เนื่องจากราคาขายเราแพงกว่าของประเทศอินโดนีเซียและประเทศเวียดนาม แม้ทางสหรัฐฯจะไปซื้อจากทั้งสองประเทศนี้ RBFก็ยังเป็นผู้ขายสินค้าให้กับผู้ประกอบการทั้งสองประเทศนี้อยู่ดี นอกจากนี้เรายังได้เริ่มพูดคุยกับลูกค้าปลายทางที่ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ซื้อของจากโรงงานที่ประเทศไทยว่าหากมีการย้ายฐานการผลิต ก็น่าจะไปลงที่ประเทศเวียดนามและอินโดนีเซียมากที่สุด ซึ่งเราได้เตรียมการความพร้อมเรื่องสูตรและการทดลองผลิตไว้แล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อบริษัทจะสามารถบริหาร Supply Chain ให้ลูกค้าต่อได้ทันทีหากลูกค้าต้องการ"พ.ต.พญ.จัณจิดา กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็น 6 กลุ่ม คือ กลุ่มวัตถุแต่งกลิ่นและรส และสีผสมอาหาร กลุ่มแป้งและซอส กลุ่มผลิตภัณฑ์อบแห้ง กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง กลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติก และกลุ่มผลิตภัณฑ์ซื้อมาเพื่อจำหน่าย