กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--โทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินงานสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้รับรางวัลเกี่ยวกับ CSR ถึง 2 รางวัล ได้แก่รางวัลในฐานะ หน่วยงานเอกชนที่มีผลงาน CSR เป็นเลิศ จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และรางวัล ผู้ช่วยเหลือราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในฐานะผู้สนับสนุน เสริมสร้าง พัฒนาทั้งทางตรงและทางอ้อม อันเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติด้านอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินงานสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมในหลากหลายมิติทั้งภายในและภายนอกองค์กรอย่างต่อเนื่อง นายชาคริต ดิเรกวัฒนชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารสายกิจการองค์กร บมจ. บีอีซีเวิลด์ กล่าวว่า "ในฐานะขององค์กรสื่อและผู้ผลิตคอนเทนท์ที่ต้องเดินทางไปในหลายพื้นที่ จึงเห็นภาพความเดือดร้อนที่ต้องได้รับความช่วยเหลือในชุมชนต่าง ๆ อยู่เสมอ จึงตระหนักถึงบทบาทและหน้าที่ในการสนับสนุนชุมชนให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านการพัฒนาสังคม การศึกษา สาธารณสุข รวมถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยในการทำงานเพื่อสังคมของช่อง 3 ได้เปิดโอกาสให้พนักงานขององค์กร ผู้จัดละคร ดารานักแสดง รวมถึงแฟนๆ ของช่อง 3 ได้มีโอกาสสร้างสรรค์และอาสาช่วยทำกิจกรรมเพื่อชุมชนร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง"
ช่อง 3 มีโครงการเพื่อสังคม ที่เรียกกันว่า "ช่อง 3 อาสาทำดี" โดยเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้ทำความดีร่วมกัน เพราะการทำความดีเป็นเรื่องไม่ยาก แต่ก็สามารถสร้างผลกระทบทางบวกให้กับสังคมอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งเป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดีแก่พนักงานขององค์กร และยังเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคม ในปี 2562 มีกิจกรรมอาสาทำดี หลากหลายกิจกรรม อาทิ กิจกรรม "ช่อง 3 อาสาทำดี ส่งต่อปฏิทินเก่าให้คนตาบอด" ที่เปิดรับบริจาคปฏิทินตั้งโต๊ะเก่าเป็นประจำทุกต้นปีจากพนักงาน เพื่อนำไปมอบให้กับโรงเรียนสอนคนตาบอดเพื่อใช้ทำอักษรเบรลล์ให้กับผู้พิการทางสายตา กิจกรรม "ช่อง 3 อาสาทำดี เพาะบ่มต้นกล้ารู้รักษ์พลังงาน" คือกิจกรรมที่พนักงานและนักแสดงได้พาเยาวชนในชุมชนคลองเตยไปเรียนรู้และทำกิจกรรมด้านการดูแลรักษาพลังงานและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างจิตสำนึกใส่ใจสิ่งแวดล้อมให้กับพวกเขา ซึ่งในปีนี้เราได้พาน้องๆ เยาวชนไปเรียนรู้ที่ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.(EGAT Learning Center) และต่อเนื่องด้วยโครงการ "ช่อง 3 อาสาทำดี ปลูกป่าคืนความสมบูรณ์สู่ระบบนิเวศ" ซึ่งได้นำผู้บริหาร พนักงาน และดารานักแสดง ร่วมเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน และร่วมกันลุยโคลนเพื่อไปปลูกต้นโกงกาง ซึ่งเมื่อต้นโกงกางโตขึ้นก็จะกลายเป็นด่านธรรมชาติที่ป้องกันน้ำกัดเซาะชายฝั่ง และสร้างความสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศอีกต่อหนึ่ง
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมประจำทุกเดือนซึ่งก็คือ "ช่อง 3 อาสาทำดี วันเกิดนี้ให้เลือดต่อชีวิต" ที่เชิญชวนและอำนวยความสะดวกให้พนักงานร่วมกันบริจาคโลหิตในเดือนเกิดของตนเองให้กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพื่อให้เกิดบรรยากาศการแบ่งปันและทำบุญในเดือนเกิด และเมื่อไม่นานมานี้พนักงานจิตอาสาของช่อง 3 ได้จัดกิจกรรม "ช่อง 3 อาสาทำดี ส่งความสุข ปันรอยยิ้มให้ผู้สูงอายุ" เมื่อวันเสาร์ที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ณ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยพนักงานได้ชวนศิลปินนักร้อง มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 รายการของช่อง 3 พร้อมด้วยหน่วยงานพันธมิตร เข้าร่วมจัดกิจกรรมนันทนาการสร้างความสุขให้กับผู้สูงอายุ ได้หัวเราะสนุกสนานกับการเต้นรำ และเหล่าจิตอาสายังได้ร่วมทำความสะอาดอาคารที่พักผู้สูงอายุให้สะอาด เพื่อสุขอนามัยที่ดีขึ้น รวมถึงยังร่วมมอบเงินสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์ฯ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อไป
ในส่วนของละครนั้น ผู้จัดและนักแสดงก็ได้ร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อสังคมกันต่อเนื่องเสมอมา ล่าสุดละคร "เพลิงรักเพลิงแค้น" ที่ผู้จัดและนักแสดงขอใช้เวลาเดินสายโปรโมทละครด้วยการทำความดี มาเยี่ยมเยียนน้องๆ ที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท ทำกิจกรรมสันทนาการ มอบความรัก ความสนุกสนาน และ เหล่านักแสดงยังมอบเงินสมทบทุน ของใช้จำเป็น และของเล่นให้น้องๆ ที่สถานสงเคราะห์อีกด้วย ส่วนละคร "ทิวาซ่อนดาว" ที่ผู้จัดและนักแสดงได้รวมตัว รณรงค์เรื่องการลดขยะ ลดการใช้กล่องโฟมและพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง โดยนักแสดงได้เริ่มกิจกรรมด้วยการเดินรณรงค์ลดการทิ้งขยะให้กับประชาชนในใจกลางเมือง ที่ศูนย์การค้าสยามวัน และยังชวนแฟนคลับรวมตัวกันอีกครั้งที่ชายหาดบางแสน เพื่อรณรงค์เรื่องเดียวกันกับนักท่องเที่ยวและเดินเก็บเศษขยะบนชายหาดไปด้วยในเวลาเดียวกัน โดยโครงการต่างๆ ของผู้จัดและนักแสดงช่อง 3 ก็เป็นโครงการที่ต้องการสื่อให้ผู้ชมเห็นถึงพลังแห่งการแบ่งปันเพื่อสังคมที่ดียิ่งๆ ขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่ช่อง 3 ทำมาอย่างต่อเนื่องคือการให้ความช่วยเหลือสังคม ในเวลาที่สังคมประสบปัญหาฉุกเฉิน อย่างเช่น อุทกภัยของภาคอีสาน ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ช่อง 3 ได้เป็นตัวกลางประสานความช่วยเหลือจากผู้มีจิตศรัทธาในเขตกรุงเทพมหานครส่งต่อถึงผู้ประสบภัยในพื้นที่ การที่มีผู้สื่อข่าวที่รายงานสถานการณ์ในพื้นที่ ทำให้ช่อง 3 สามารถรับทราบและเข้าถึงปัญหาในท้องถิ่นที่น้ำท่วมได้อย่างดี พร้อมทั้งยังสามารถทำการประสานงานกับภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการนำสิ่งของบริจาคเป็นจำนวนมากส่งไปยังพื้นที่ประสบภัยอย่างทันการณ์ โดยความช่วยเหลือของกองทัพไทย และบริษัท ห้างร้าน โดยช่อง 3 สามารถนำของที่ได้รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาจากทั่วประเทศไปถึงพื้นที่ประสบภัยได้ในเวลาอันรวดเร็ว นอกจากนี้ การบริหารจัดการความช่วยเหลือในช่วงฟื้นฟูหลังน้ำลดก็กำลังเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้อีกด้วย
"ช่อง 3 ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำกิจกรรมเพื่อสังคมตามแนวคิดขององค์กร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการในการสร้างสรรค์และแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กับสังคม เพราะเราตระหนักว่าการเป็นองค์กรที่ดีนั้น มีภาระหน้าที่มากกว่าการดำเนินธุรกิจให้มีผลกำไร แต่ยังมีภาระที่จะต้องเดินไปกับสังคม เพื่อมอบความสุขและน้ำใจให้กับสังคมที่เราอยู่ให้เติบโตไปพร้อมกัน" นายชาคริต กล่าวสรุป