กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ผลประกอบการ 9 เดือนแรกปี 2562 กำไรสุทธิ 1,185 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สรอ.) (เทียบเท่า 37,182 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 39 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการตามแผนกลยุทธ์
นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนของปี 2562 ปตท.สผ. มีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 4,572 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สรอ.) (เทียบเท่า 143,115 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จาก 3,960 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 127,434 ล้านบาท) ในช่วงเดียวกันของปี 2561 โดยมีปัจจัยสำคัญจากปริมาณขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 335,696 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เมื่อเทียบกับ 300,338 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ12 ซึ่งเป็นผลจากการเข้าซื้อสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเติมในแหล่งบงกชซึ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อกลางปี 2561 และการเข้าซื้อกิจการของบริษัท เมอร์ฟี่ ออยล์ คอร์ปอเรชั่น ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเสร็จสิ้นในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ประกอบกับราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยเป็น 46.83 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ จาก 46.25 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบในช่วงเดียวกัน ส่งผลให้ 9 เดือนแรกของปี 2562 ปตท.สผ. มีกำไรสุทธิ 1,185 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 37,182 ล้านบาท) สูงขึ้นร้อยละ 39 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 851 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 27,372 ล้านบาท) สำหรับต้นทุนต่อหน่วย (Unit cost) ลดลงมาเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 30.86 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ จาก 31.28 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนแรกของปีก่อน
ส่วนผลประกอบการของไตรมาส 3 ปี 2562 นั้น ปตท.สผ. มีกำไรสุทธิ 358 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 11,019 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับ 315 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 10,401 ล้านบาท) ในช่วงเดียวกันของปี 2561 ซึ่งเป็นผลจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นจากโครงการมาเลเซียเช่นเดียวกัน
นายพงศธร กล่าวว่า "ผลการดำเนินงานซึ่งเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วง 9 เดือนของปีนี้ เป็นการสะท้อนความสำเร็จจากการเข้าซื้อกิจการในประเทศมาเลเซียตามแผนกลยุทธ์ ซึ่งส่งผลให้ ปตท.สผ. มีปริมาณการขายเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายปริมาณการขายเฉลี่ยของปี 2562 ซึ่งตั้งไว้ที่ 345,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน และเมื่อการซื้อกิจการของบริษัท พาร์เท็กซ์ โฮลดิ้ง ซึ่งมีการลงทุนหลักอยู่ในตะวันออกกลางเสร็จสิ้น จะส่งผลให้ปริมาณการขายเพิ่มสูงขึ้นอีก นอกจากนี้ การเร่งพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมต่าง ๆ ซึ่งอยู่ในระยะสำรวจในประเทศมาเลเซีย เช่น แปลงเอสเค 410 บี จะช่วยเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมและปริมาณการผลิตให้กับบริษัทในอนาคตอีกด้วย"
ปตท.สผ. ได้มีการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ในแปลงเอสเค 410 บี จากการเจาะหลุมสำรวจแรก "ลัง เลอบาห์-1อาร์ดีอาร์ 2" ไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างการวางแผนเจาะหลุมประเมินผล เพื่อประเมินศักยภาพปิโตรเลียมเพิ่มเติม ซึ่งจะดำเนินการควบคู่ไปกับการศึกษาแผนพัฒนา นอกจากนี้ ในปี 2563-2564 ปตท.สผ. มีแผนจะเร่งการเจาะสำรวจในโครงการอื่น ๆ ในประเทศมาเลเซียที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อประเมินศักยภาพในภาพรวม และกำหนดแผนกลยุทธ์การพัฒนาที่เหมาะสมต่อไป