กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--บี.กริม เพาเวอร์
มูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินฯ ร่วมกับ บี.กริม มอบทุนการศึกษาสมเด็จย่า'90 พร้อมสร้างค่ายตามรอยสมเด็จย่ารุ่นที่ 4
มูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ร่วมกับ บี.กริม บริษัทสัญชาติเยอรมันที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยกว่า 141 ปีเรียกได้ว่าอยู่คู่การเติบโตมากับประเทศไทย ขณะที่ผู้บริหารในแต่ละรุ่นต่างมีความสำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณมาโดยตลอด และเพื่อตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณ บี.กริม ได้ให้ความสำคัญกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ศาสนา และการศึกษา มาอย่างต่อเนื่อง
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานมูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี ในพระราชูปถัมภ์ กล่าวว่า มูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินฯ ก่อตั้งมา 39 ปี นับจากปี 2523 แต่เริ่มมีการจัดมอบทุนให้กับนักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี (วพบ.) ตั้งแต่ปี 2533 ซึ่งเป็นปีที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีมีพระชนมายุ 90 พรรษาจึงได้ดำเนินการจัดมอบทุนเป็นครั้งแรกจำนวน 30 ทุน
ทั้งนี้ในปี 2562 เป็นการจัดมอบทุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 29 แล้ว โดยในปีนี้จัดมอบทุนให้นักศึกษา วพบ.510 ทุนครอบคลุม วพบ.ทั้งหมด 32 แห่งทั่วประเทศ และมอบทุนให้กับองค์กรการกุลศลอื่นๆ อีก 25 องค์กรรวมเป็นเงิน 7,400,000 บาท พร้อมกับจัดให้มีการเข้าค่ายตามรอยสมเด็จย่ารุ่นที่ 4 เพื่อให้นักศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับคัดเลือกจาก วพบ.ทั้ง 32 แห่งเป็นตัวแทนมาเข้าค่ายแลกเปลี่ยนความรู้กัน รวมทั้งให้นักศึกษา วพบ.ได้ระลึกถึงคุณงามความดีของสมเด็จย่าเพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจกับนักศึกษาในการทำหน้าที่อาชีพพยาบาลได้อย่างเต็มความสามารถ
"การมอบทุนให้แก่นักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีเพื่อเป็นการลดภาระแก่นักศึกษา และสร้างโอกาสให้กับผู้สนใจเรียนพยาบาลแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้เข้ามาเรียน ส่วนค่ายตามรอยสมเด็จย่านั้นเพื่อให้นักศึกษาได้มีความรู้มากขึ้นให้เขารู้จักกันมีการแลกเปลี่ยนความรู้กัน รวมทั้งสร้างจิตสำนึกให้กับนักศึกษาต่ออาชีพพยาบาลให้ระลึกถึงสมเด็จย่าที่เคยสร้างคุณประโยชน์ให้คนไทยอย่างมหาศาล ให้นักศึกษาตามรอยสร้างความดีงาม"
คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รองประธานมูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีกล่าวว่า การจัดค่ายตามรอยสมเด็จย่าในปีนี้จัดขึ้นเป็นรุ่นที่ 4 มีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมโยงพูกพันระหว่างนักศึกษาปีที่ 3 จำนวน 120 คนเป็นตัวแทนจาก 32 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สร้างแรงบันดาลใจต่อการทำหน้าที่อาชีพพยาบาล เน้นปลูกฝังให้นักศึกษาเป็นคนดีมีความรับผิดชอบต่ออาชีพ ต่อหน้าที่ของตนเองมีความเสียสละ และสามารถดำรงชีวิตได้อย่างพอเพียง ประกอบกับได้มาแลกเปลี่ยนความรู้กันแล้วสามารถนำประสบการณ์ความรู้ไปกระจายความรู้กับนักศึกษารุ่นน้องต่อไป
สำหรับคุณสมบัติผู้ที่จะได้รับทุนนั้นจะต้องเรียนดี ขาดแคลนทุนทรัพย์ มีความประพฤติดี โดยนักศึกษาจะได้รับทุนไปสำหรับจ่ายค่าอุปกรณ์การเรียน ตำราเรียนและค่าใช้จ่ายทั่วไป โดยเงินส่วนใหญ่มาจากบริษัทบี.กริม นอกจากนี้ก็มีผู้บริจาครายย่อย ประชาชนทั่วไป ล่าสุดมีการจัดวิ่งการการกุศล Run for nurse ขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อสมทบทุนแก่มูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเป็นทุนในการมอบให้นักศึกษา
"พยาบาลเป็นอาชีพที่มีความสำคัญกับสังคมเกี่ยวข้องประประชาชนทุกคน เป็นอาชีพที่เสียสละผู้มาเรียนส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงแต่แท้ที่จริงแล้วการทำงานเป็นพยาบาลเป็นงานที่หนักควรจะมีผู้ชายมากขึ้นด้วยประกอบกับคนที่มาเรียนมีฐานะขาดแคลน ดังนั้นเด็กที่มาเรียนพยาบาลจึงเป็นคนเสียสละ อุทิศตน สร้างประโยชน์ให้กับสังคมถ้าเกิดเราจะช่วยกันส่งเสริมอาชีพนี้ก็บริจาคกันได้เพื่อสร้างอาชีพนี้ให้มีคุณค่าต่อไป"
น.ส.ลาวัณย์ ศรีบรรเทา นักศึกษาปีที่ 3 วพบ.จ.ชัยนาท กล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า พ่อ แม่ทำไร่ ทำนาไม่มีรายได้มากพอที่จะส่งเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน หรือมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอื่นเพราะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะก็เลยตัดสินใจสมัครเรียนพยาบาลที่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีเพราะมีทุนให้ทุกปีตั้งแต่ต้นจนจบการศึกษา ลดภาระค่าใช้จ่ายที่บ้านได้เยอะ"วิทยาลัยพยาบาลเขาให้โอกาสนักศึกษาที่ยากจนมีโอกาสเข้ามาเรียนได้ การเรียนพยาบาลเป็นอาชีพที่ต้องเสียสละ และการเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ตื่นเต้นแต่ก็ได้ประสบการณ์จากวิทยากร เพื่อ วพบ.จากจังหวัดอื่นที่ได้แลกเปลี่ยนความรู้กันได้เรียนรู้เรื่องราวของสมเด็จย่าในด้านการเป็นพยาบาลจึงทำให้เห็นความสำคัญของอาชีพนี้มากขึ้นซึ่งจะเอาประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับใช้กับวิชาชีพ"
น.ส.ธิติยา รักแฟง นักศึกษาปีที่ 3 วพบ.จ.ตรัง กล่าวว่า ได้ทุนเรียนที่วิทยาลัยพยาบาลตรัง เลือกเรียนเพราะอยากเรียนพยาบาล โดยตอนแรกได้ปรึกษารุ่นพี่บ้านใกล้กันเขาแนะนำให้ไปเรียนวิทยาลัยพยาบาลเพราะมีทุนการศึกษาให้ ซึ่งจะไปเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน หรือมหาวิทยาลัยอื่นๆ ก็ไม่มีเงินค่าเทอม ขณะที่การเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้จะนำเอาประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ปรับใช้ในวิชาชีพพยาบาล และนำไปบอกเล่าให้กับนักศึกษารุ่นน้องฟัง โดยทุนที่ได้ทุกๆ ปีนั้นเป็นประโยชน์อย่างมากกับนักศึกษาที่ไม่มีทุนทรัพย์เพราะการเรียนพยาบาลค่าใช้จ่ายเยอะทุนส่วนหนึ่งที่ได้มาก็สามารถช่วยเหลือได้เยอะและยังช่วยให้น้องๆ รุ่นต่อๆ ไปมีโอกาสได้ทุนด้วย
นายพสินฐุ์ ศรีลาวัณย์ นักศึกษาปีที่ 3 วพบ.จ.แพร่ กล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า ใจจริงทำงานผู้ช่วยเหลือหมอเลยไปปรึกษารุ่นพี่เขาเลยแนะนำมาเรียนพยาบาล จึงตัดสินใจเลือกเข้าเรียนที่วพบ.จ.แพร่ และต้อง
ขอขอบคุณบริษัทบี.กริม มูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในพระราชูปถัมภ์ ที่จัดมอบทุนให้กับนักศึกษา วพบ.เพราะช่วยลดเรื่องภาระค่าใช้จ่ายกับพ่อ แม่ได้เยอะ ส่วนการร่วมกิจกรรมตามรอยสมเด็จย่าในครั้งนี้ก็ได้รับประสบการณ์ดีๆ หลายด้านทั้งความรู้ที่ได้รับจากวิทยากร จากคุณหญิงทิพาวดี ได้เรียนรู้เรื่องราวการเป็นพยาบาลของสมเด็จย่าซึ่งทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการทำหน้าที่ในวิชาชีพพยาบาลของตน และยังสามารถนำไปปรับใช้กับการดำเนินชีวิตประจำวันได้ รวมถึงจะนำเอาประสบการณ์ที่ได้รับไปบอกเล่าให้รุ่นน้องฟังด้วย
น.ส.วิภาดา วรรณราช นักศึกษาปีที่ 3 วพบ.จ.อุดรธานี กล่าวว่า การเลือกเรียนพยาบาลนั้นมองว่ามีโอกาสต่อยอดได้เยอะในการทำงานมีงานทำที่แน่นอนจึงตัดสินใจเรียนพยาบาล ซึ่งพอได้รองมาเรียนได้ฝึกงานก็ชอบมากขึ้น เราปฏิบัติกับคนไข้ได้รับคำขอบคุณต่างๆ ทำให้เรารู้สึกประทับใจชอบมากขึ้น ทั้งนี้การเรียนพยาบาลนอกจากเป็นประโยชน์กับตนเองแล้วยังสร้างประโยชน์แก่ผู้อื่นด้วย เป็นอาชีพที่มีประโยชน์ต่อสังคม ช่วยเหลือผู้อื่น สำหรับการได้รับทุนจากมูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในพระราชูปถัมภ์ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางบ้านได้เยอะทั้งค่าเล่าเรียน การซื้ออุปกรณ์ เพราะครอบครัวไม่มีเงินเพียงพอดังนั้นการได้รับทุนจึงช่วยให้สามารถเรียนได้แบบสบายใจไม่ต้องกังวล และการเข้าค่ายตามรอยสมเด็จย่าในครั้งนี้ก็จะนำความรู้ประสบการณ์ที่ได้รับนำไปปรับใช้การเรียน การดำรงชีวิต และการประกอบวิชาชีพพยาบาลต่อไป