กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป
ศาลได้ตัดสินว่าบริษัท จอห์น เวสต์ จำกัด ไม่มีความผิดใดๆ ในข้อกล่าวหาว่าทำธุรกิจกับการประมงที่ผิดกฎหมาย ภายหลังสำนักงานอัยการแห่งสหราชอาณาจักรแจ้งว่าไม่มีหลักฐานที่สนับสนุนการข้อกล่าวหาดังกล่าว
บริษัท จอห์น เวสต์ ฟู้ดส์ จำกัด บริษัทในเครือ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศว่า ศาลได้ตัดสินให้บริษัทไม่มีความผิดใดๆ ในข้อกล่าวหาว่าทำธุรกิจกับการประมงที่ผิดกฎหมาย ตามที่องค์กรการจัดการมหาสมุทรแห่งสหราชอาณาจักรได้กล่าวโทษ
ในเดือนสิงหาคม ปี 2556 ทางองค์กรการจัดการมหาสมุทรแห่งสหราชอาณาจักร ได้แจ้งจอห์น เวสต์ ว่ากำลังสืบหาความจริงในกรณีการเกี่ยวข้องกับการทำประมงผิดกฎหมายในประเทศกาน่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลาที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าสหราชอาณาจักรช่วงระหว่างเดือนมกราคม 2553 ถึง เดือนกุมภาพันธ์ 2557 โดยในเดือนธันวาคม 2560 องค์กรการจัดการมหาสมุทรแห่งสหราชอาณาจักรได้ยื่นฟ้องบริษ้ท จอห์น เวสต์ แปดข้อหาว่าได้ทำธุรกิจโดยตรงกับการทำประมงที่ผิดกฎหมายหรือ ไอยูยู ซึ่งทางบริษัท จอห์น เวสต์ ได้โต้แย้งและปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้
ในวันพุธที่ 30 ตุลาคม 2562 ศาลได้ตัดสินว่าบริษัท จอห์น เวสต์ จำกัด ไม่มีความผิดใดๆ ในทุกข้อกล่าวหา ภายหลังสำนักงานอัยการแห่งสหราชอาณาจักรแจ้งว่าไม่มีหลักฐานที่สนับสนุนการข้อกล่าวหาดังกล่าว
นายเดวิด ซานโควิคซ์ ผู้อำนวยการกลุ่ม ฝ่ายกฎหมายและการประกัน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
"ตลอดขั้นตอนการพิจารณาคดี เราได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับองค์กรการจัดการมหาสมุทรแห่งสหราชอาณาจักรและผู้ตรวจสอบจากองค์กรด้วยความโปร่งใส เรายินดีกับคำตัดสินว่าบริษัทไม่มีความผิดใดๆ ตามข้อกล่าวหา ไทยยูเนี่ยนและบริษัทในเครือดำเนินธุรกิจตามหลักกฎหมายในทุกๆ พื้นที่ที่เราได้รับวัตถุดิบมา การจัดหาวัตถุดิบอย่างถูกกฎหมายและมีความรับผิดชอบมีความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ ในธุรกิจของเราเสมอมาและจะเป็นเช่นนี้ต่อไป"
นายพอล รีแนน ประธานกรรมการบริหาร ไทยยูเนี่ยน ยุโรป กล่าวเสริมว่า
"ไทยยูเนี่ยนและบริษัทในเครือให้ความสำคัญอย่างมากกับประเด็นการทำประมงอย่างผิดกฎหมาย เรามีมาตรการที่เข้มงวดเพื่อที่จะแน่ใจได้ว่าผู้ที่จัดหาวัตถุดิบให้เรามีการดำเนินงานอย่างถูกกฎหมาย และมีเอกสารหลักฐานต่างๆ ถูกต้อง เราไม่รับซื้อปลาจากเรือประมงที่อยู่ในรายชื่อการทำประมงผิดกฎหมายหรือไอยูยู ที่ตีพิมพ์โดยองค์กรการจัดการประมงภูมิภาค คำตัดสินในครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันว่านโยบายของเราได้ถูกนำมาปฏิบัติอย่างจริงจังและผู้บริโภคและคู่ค้าของเราจะมั่นได้อย่างยิ่งขึ้นว่าเราจะผลิตภัณฑ์ของเรานั้นผลิตจากปลาที่มีคุณภาพ รสชาติดีและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน"
บริษัท จอห์น เวสต์ ได้ใช้สำนักงานกฎหมายเหล่านี้ Daniel Astaire of Grosvenor Law, Chris Daw QC, Tom de la Mare QC, Patrick Hill และ Frazer Campbell
เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี
วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุภาชนะชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 1.33 แสนล้านบาท (4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 47,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน
ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Ruegen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่
จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange(R) และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด ทำให้ในปี 2561 และ 2562 ไทยยูเนี่ยนได้เป็นผู้นำอันดับ 1 กลุ่มอุตสาหกรรมของโลกใน Food Industry ในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ และประสบความสำเร็จในการได้รับคะแนนเปอร์เซ็นไทล์สูงสุดที่ 100 ในคะแนนด้านความยั่งยืนทั้งหมด ปัจจุบันไทยยูเนี่ยนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index ในปี 2561 อีกด้วย