กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจการนำเข้าผักผลไม้ บริเวณด่านศุลกากรเชียงของ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย โดยพบว่าด่านแห่งนี้ มี 2 หน่วยงานที่ทำหน้าที่เก็บตัวอย่างไปตรวจสอบ คือ กรมวิชาการเกษตร ที่ต้องส่งไปตรวจที่ อ.เชียงแสน ห่างไป 40 กิโลเมตร ในขณะที่เป็นด่านทางบกที่ผักและผลไม้จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาจำนวนมาก ในขณะที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบสารตกค้าง แต่ทำได้เพียงตรวจสอบเบื้องต้นผ่านชุดตรวจสอบ จีทีเทสคิด และสุ่มตรวจและปล่อยผ่านสินค้าไปก่อน ซึ่งตัวอย่างที่เก็บจะใช้เวลาในการตรวจสอบ 2 วันจึงทราบผล ซึ่งไม่ทันสถานการณ์และปริมาณสินค้าที่ผ่านเข้ามา
"การดำเนินการมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารไม่ใช่การกีดกันทางการค้า แต่เป็นเรื่องความปลอดภัยของผู้บริโภคทั้งประเทศต้นทางและปลายทาง ซึ่งวันที่ 1 ธ.ค. 62 นี้ สินค้าเกษตรที่นำเข้าไทยต้องปลอด 3 สาร ที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติแบน อีกทั้งจะให้กรมวิชาการเกษตรดำเนินการลดขั้นตอนการทำงานและเพิ่มเติมบุคคลากรที่จะทำงานร่วมกับ อย. ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น" นางสาวมนัญญา กล่าว
นอกจากนี้ จะให้เร่งตั้งห้องปฎิบัติการตรวจวิเคราะห์สารตกค้างที่นำเข้าที่ด่านเชียงของ ซึ่งจะเป็นห้องปฎิบัติการที่ทันสมัย ทราบผลรวดเร็ว สามารถวิเคราะห์สารตกค้างได้มากกว่า 450 ชนิด โดยจะเร่งให้เกิดในงบปี 63 ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคมีความปลอดภัยมากขึ้น และช่วยให้เกษตรกรไทยสามารถแข่งขันกับผักผลไม้ที่นำเข้าจากจีนได้ และที่สำคัญคือความปลอดภัยของผู้บริโภคทั้งคนไทยและต่างประเทศ
ทั้งนี้ การนำเข้าสินค้าผัก ผลไม้ ในปี 2561 มีการนำเข้าจำนวน 300,000 - 400,000 ตัน มีมูลค่า 5,000 ล้านบาท และในปี 2562 มีการนำเข้า 170,000 ตัน มูลค่า 3,200 ล้านบาท ซึ่งสินค้าผัก ผลไม้เหล่านี้ ส่งตรงถึงตลาดไทและตลาดสี่มุมเมือง