กรุงเทพฯ--17 ต.ค.--กู๊ด เน็ตเวิร์ค
ข้อมูลนวัตกรรมจากญี่ปุ่น
นวัตกรรมใหม่ REJUVENATION จากญี่ปุ่นถึงไทย
การพัฒนาสารสกัดเมล็ดลิ้นจี่สู่เทคโนฯต้านผิวแก่ก่อนวัย
ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นประเทศระดับชั้นนำในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ รวมทั้งนวัตกรรมด้านความสวยงามจากสารธรรมชาติ บริษัท ออไรซ่า ออย แอนด์ แฟต เคมีคอล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัย ค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติแห่งประเทศญี่ปุ่น มาเกือบ 70 ปี
ล่าสุด ออไรซ่า ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ค้นพบประสิทธิภาพของสารสกัดจากเมล็ดลิ้นจี่ ในการต่อต้านการเสื่อมในโครงสร้างของผิวโดยตรง โดยมีการค้นคว้าต่อเนื่องจนทราบถึงกลไกการออกฤทธิ์ และมีการทดสอบยืนยันถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยในคนอย่างครบถ้วน และมีการพิสูจน์ผลลัพธ์ ด้วยการทดสอบในอาสาสมัครแล้ว โดยยืนยันประสิทธิภาพในระยะเวลา 3 สัปดาห์
ประสิทธิภาพของสารสกัดดังกล่าวนี้ สามารถต่อต้านการเสื่อมของโครงสร้างของผิวที่สำคัญทั้ง 3 ส่วน โดยการยับยั้งการเสื่อมของคอลลาเจน(collagen) อีลาสติน(elastin) และไฮยาลูโรนิคแอซิด (hyaluronic acid) โดยตรง
ทั้งนี้ เพราะตามกลไกลธรรมชาติของร่างกายผู้หญิง เมื่อเข้าสู่วัยสาว ตั้งแต่อายุ 12-14 ปี หรือวัย ที่เริ่มมีประจำเดือน ร่างกายจะผลิตเอ็นไซม์ ที่เรียกว่า คอลลาจีเนส(collagenase) อีลาสติเนส (elastinase) และไฮยาลูโรดิเนส(Hyalurodinase) ซึ่งเป็น เอ็นไซน์ที่ทำลายส่วนประกอบสำคัญของโครงสร้างผิวทั้ง 3 ส่วนข้างต้น การค้นพบนี้ทำให้เข้าใจและสามารถหาวิธีหยุดยั้ง สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวแก่และเสื่อมสภาพก่อนวัย
ประสิทธิภาพในการต่อต้านการเสื่อมของโครงสร้างของผิวที่สำคัญทั้ง 3 ส่วน คือ คอลลาเจน อีลาสติน และไฮยาลูโรนิคแอซิด เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผิวเต่งตึง ขาวใส ไร้ริ้วรอย
คอลลาเจน เป็นเส้นใยโปรตีนที่เชื่อมโยงกันในชั้นผิวหนัง เป็นส่วนประกอบส่วนใหญ่ของผิว ทำให้ผิวมีความแข็งแรง เกิดความเต่งตึง และเด้งกระชับ ทำให้ผิวไม่มีร่องลึกและริ้วรอย เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับผิวสวยอ่อนวัย
อีลาสติน เป็นเส้นใยโปรตีนที่ขดและยืดตัวเป็นเกลียว ทำหน้าที่คล้ายสปริง ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น อีลาสตินและคอลลาเจน จะทำหน้าที่ร่วมกัน เพื่อให้ผิวมีทั้งความเต่งตึง ยืดหยุ่น และเด้งกระชับ
ไฮยาลูโรนิคแอซิด เป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างเซลล์ผิว และทำให้ผิวมีความชุ่มชื่น เนียนนุ่ม เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผิวจะมีไฮยาลูโรนิคแอซิดลดลง มีผลต่อความสดใสเปล่งปลั่ง ความชุ่มชื่น และทำให้เกิดริ้วรอยบนผิว
สารสกัดจากเมล็ดลิ้นจี่ดังกล่าวคือ “ไวต้าลิทชี่ (VitaLitchi)” ที่วิจัยและพัฒนาโดย ออไรซ่า จะมีลักษณะพิเศษ เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ และเป็นการสกัดด้วยวิธีพิเศษที่มีความแตกต่างจากการสกัดเมล็ดลิ้นจี่ทั่วไป เปรียบเสมือนมีลายนิ้วมือ(Finger Printed Extract)ที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง
ทั้งนี้ สารสกัดเฉพาะนี้ จะประกอบด้วยสารชีวเคมีที่เป็นส่วนผสมในอัตราส่วนเฉพาะตัว สารประกอบส่วนใหญ่ ได้แก่ สารโปรไซยานิติน เอ 2 สารลิวโคไซยานิติน สารมาลวิดินไกลโคซายด์ สารไซยานิตินไกล-โคซายด์ และสารซาโปนิน
ดร ทาดาชิ โอกาดา นักวิจัยผู้คิดค้นสารสกัดจากเมล็ดลิ้นจี่ “ไวต้าลิทชี่ (VitaLitchi)”จากญี่ปุ่น กล่าวย้ำว่า “ที่สำคัญ สารสกัดจากเมล็ดลิ้นจี่ “ไวต้าลิทชี่ (VitaLitchi)” นี้ ได้ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพและยืนยันความปลอดภัย จาก Japan Food Research Centre Foundation ประเทศญี่ปุ่น โดยสามารถรับประทานได้มากถึง 5,000 มก. ต่อน้ำหนักตัว 1 กก. โดยไม่พบการระคายเคือง ไม่พบการแพ้ ไม่มีผลร้ายต่อเซลล์ของร่างกาย และไม่มีผลร้ายต่อทารกในครรภ์
นาย ฮิโรมิชิ มูราอิ ประธานกรรมการ บริษัท ออไรซ่า ออย แอนด์ แฟต เคมีคอล จำกัด ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์งานวิจัยนี้ กล่าวเสริมด้วยว่า ที่ญี่ปุ่นได้อนุญาตให้นำสารสกัดจากเมล็ดลิ้นจี้นี้มาเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆ จำหน่ายทั้งในประเทศญี่ปุ่นและในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย
สารสกัดจากเมล็ดลิ้นจี่นี้ จึงมีประสิทธิภาพสูงที่มากกว่าสารสกัดธรรมชาติอื่นหลายๆ ชนิด คือ ไม่เพียงบำรุงผิวให้มีสุขภาพดีเหมือนสารธรรมชาติอื่นหลายชนิด แต่ยังสามารถต่อต้านการเสื่อมของโครงสร้างของผิวโดยตรง และยังมีประสิทธิภาพที่แตกต่าง จากการที่สามารถกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ได้อีกตามธรรมชาติ เพื่อคืนความเด้งกระชับและยืดหยุ่น ผิวตึงตัวขึ้น ไม่มีร่องลึกและริ้วรอย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการมีผิวอ่อนวัยอย่างเป็นธรรมชาติ
อีกทั้งช่วยเพิ่มความชุ่มขื่นให้กับผิว ปรับสภาพความเป็นกรดด่างของผิวให้มีสุขภาพดี ช่วยเพิ่มความเงางามให้กับผิว ช่วยต่อต้านการทำลายเซลผิวจากอนุมูลอิสระได้ดี ช่วยปรับสภาพสีผิวให้ขาว สดใส และยังทำให้มีสีผิวขาวสม่ำเสมอ จึงทำให้ผิวสวยสมบูรณ์อย่างเป็นธรรมชาติอย่างรวดเร็ว และปลอดภัย
นาย ฮิโรมิชิ มูราอิ กล่าวว่า จากการคิดค้นวิจัยสารสกัดธรรมชาติจากเมล็ดลิ้นจี่ “ไวต้าลิทชี่ (VitaLitchi)” ขึ้นนี้ จึงพัฒนามาสู่นวตกรรมใหม่ ด้วย เทคโนโลยี่ REJUVENATION เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านความงาม เพื่อนำประสิทธิภาพที่ดีของสารสกัดจากเมล็ดลิ้นจี่มาใช้กับผิวพรรณ
“องค์การอาหารและยาของทางญี่ปุ่น สหรัฐและทางยุโรป จะอนุญาตให้จัดจำหน่ายได้หลากหลายรูปแบบทั้งการพัฒนาเป็นเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่ง สารสกัดจากเมล็ดลิ้นจี่ “ไวต้า- ลิทชี่ (VitaLitchi)” มีตลาดหลักอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและยุโรป ทางเอเชียจะยังมีน้อย ยกเว้นที่ญี่ปุ่น เนื่องจาก คนในกลุ่มประเทศเหล่านี้ ใส่ใจสุขภาพและคุณภาพชีวิตสูง และมีการใช้จ่ายในเรื่องสุขภาพและความงามมากกว่าเมื่อเทียบกับประชาชนในย่านเอเชีย” นาย ฮิโรมิชิ มูราอิ กล่าว
ส่วนตลาดเอเชียนั้น เป็นตลาดที่ทางออไรซ่าให้ความสนใจ โดยเฉพาะประเทศไทยที่ทาง ออไรซ่าจะพัฒนาตลาดให้ขยายตัวกว้างขวางขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน ผู้หญิงไทยใส่ใจในสุขภาพและคุณภาพชีวิตมากขึ้น ขณะนี้ออไรซ่าได้มีการมอบลิขสิทธิ์ สารสกัดจากเมล็ดลิ้นจี่ “ไวต้าลิทชี่ (VitaLitchi)” และเทคโนโลยี่ REJUVENATION นี้ให้กับบริษัทของไทยแล้ว
นักวิจัยผู้คิดค้นสารสกัดจากเมล็ดลิ้นจี่ ดร. ทาดาชิ โอกาดา ให้รายละเอียดด้วยว่า สารสกัดดังกล่าว มาจากส่วนที่เป็นเมล็ดลิ้นจี่ในพันธุ์พิเศษโดยเฉพาะ จะไม่มีในหลายๆ พันธุ์ลิ้นจี่ทั่วไป และที่ญี่ปุ่นมีการจดลิขสิทธิ์เอกลักษณ์ของสารสกัดนี้แล้ว ซึ่งการทดลองเรื่องสารสกัดจากเมล็ดลิ้นจี่โดยออไรซ่า ก็มีมาอย่างต่อเนื่องนานนับ 40 ปีแล้ว
“การคิดค้นพัฒนาสู่เทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ REJUVENATION เพื่อช่วย ให้การทำงานของโครงสร้างผิวภายในดีขึ้น โดยยึดหลักการทำงานของการหยุดยั้งกลไกที่ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของผิว หรือหยุดผิวแก่ก่อนวัย เพื่อดึงคุณสมบัติที่ให้มากกว่าแค่การช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ เทคโนโลยีนี้ยังสามารถชะลอการเสื่อมสภาพของคอลลาเจน อีลาสติน ไฮยาลูโรนิคแอซิด หรือชะลอการเสื่อมสภาพผิวแก่ และยังช่วยเร่งการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติขึ้นใหม่อีก” ดร.ทาดาชิ กล่าว
ด้วยเทคโนโลยี REJUVENATION จากญี่ปุ่น นี้ จึงนำมาพัฒนาเป็นสูตรสารอาหารธรรมชาติ เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายในให้ผิวสวยอ่อนวัย จากความรู้ทางเภสัชกรรมและโภชนาการที่ทันสมัย สามารถเชื่อมโยงสุขภาพผิวที่ดี ด้วยการรับประทานสารอาหารที่เหมาะสม เพื่อทำให้เข้าใจเรื่องผิวเสื่อมวัยและสามารถกลับคืนสู่ผิวสวยอ่อนวัยจากภายในได้
“คาดว่าสารสกัดจากเมล็ดลิ้นจี่ “ไวต้าลิทชี่ (VitaLitchi)” จะทำให้เกิดการพัฒนาและเกิดการเปลี่ยนแปลงต่อของวงการด้านความสวยงามของไทย ก้าวไปสู่นวัตกรรมใหม่อีกขั้นหนึ่ง เพราะประสิทธิภาพของสารสกัดในเมล็ดลิ้นจี้ที่โดดเด่น และยังไม่มีผลิตภัณฑ์ใดที่นำเรื่องการต่อต้านการเสื่อมของโครงสร้างของ ผิวนี้มาชูอย่างโดดเด่น” ดร.ทาดาชิกล่าวย้ำ
ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อได้ที่ คุณภาวินี ชนะพลชัย บริษัท กู๊ด เน็ตเวิร์ค จำกัด
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ โทร 0-2946-8470-2--จบ--