กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign-currency Issuer Default Rating หรือ IDR) ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM) ที่ 'BBB+' แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวกและคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'AAA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
สำหรับรายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงไว้ในส่วนท้าย
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
การประกาศคงอันดับเครดิตสากลของธนาคารสะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ที่เชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลไทยจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารในกรณีที่มีความจำเป็น อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวทั้งของ EXIM และของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของธนาคารอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลของรัฐบาลไทย (BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวก/F1) ในขณะที่อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ EXIM ที่ 'AAA(tha)' เป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุดสำหรับอันดับเครดิตภายในประเทศ ทั้งนี้อันดับเครดิตของ EXIM มีปัจจัยสนับสนุนมาจากบทบาทที่สำคัญเชิงนโยบายของธนาคาร ความใกล้ชิดระหว่างธนาคารกับรัฐบาลและสถานะทางกฎหมายของธนาคารในฐานะที่เป็นธนาคารรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามกฏหมายเฉพาะ อีกทั้ง EXIM ยังมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดและมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อให้การสนับสนุนภาคส่งออก นำเข้า รวมถึงธุรกรรมด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของประเทศไทย
EXIM มีสถานะทางการเงินที่ดีอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นธนาคารจึงไม่มีความจำเป็นต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินเป็นกรณีพิเศษจากรัฐบาล (Extraordinary support) อย่างไรก็ตามธนาคารยังคงได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาล เช่น การรับเงินชดเชยรายได้จากการดำเนินงานในโครงการตามนโยบายของภาครัฐ
แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวกของอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ EXIM สอดคล้องกับแนวโน้มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ EXIM สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ที่คาดว่ารัฐบาลไม่น่าที่จะปรับลดความช่วยเหลือสนับสนุนแก่ธนาคารลงในระยะกลาง
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตสากลของประเทศไทยอาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตสากล อันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ (Support Rating Floor) ของ EXIM ซึ่งอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยในปัจจุบันมีแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวกจากฐานะทางการคลังสาธารณะและฐานะหนี้สินต่างประเทศ (External and Public finance) ของประเทศไทยที่ยังมีความแข็งแรงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยจะไม่ส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารเนื่องจากความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลน่าจะยังคงเป็นระดับต่ำที่สุดในประเทศ ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศของ EXIM ไม่มีโอกาสที่จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตเนื่องจากอันดับเครดิตภายในประเทศของธนาคารเป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุดแล้ว
ฟิทช์อาจทำการปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและอันดับเครดิตภายในประเทศของธนาคาร หากรัฐบาลปรับลดโอกาสที่จะให้การช่วยเหลือสนับสนุนแก่ธนาคารลง ตัวอย่างของกรณีดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้น เช่น หากรัฐบาลลดสัดส่วนการถือหุ้นลงอย่างมีนัยสำคัญ บทบาทความสำคัญเชิงนโยบายของธนาคารปรับตัวด้อยลง หรือมีการเปลี่ยนแปลงสถานะทางกฎหมายของธนาคาร อย่างไรก็ตามฟิทช์เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง
รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมด มีดังนี้
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'BBB+' แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวก
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1'
- อันดับเครดิตสนับสนุนคงอันดับที่ '2'
- อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำคงอันดับที่ 'BBB+'
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AAA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'
-อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของโครงการหุ้นกู้ Medium Term Note ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน มูลค่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ คงอันดับที่ 'BBB+'