กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (หรือ ธ.ก.ส.) ที่ 'AAA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ 'F1+(tha)'
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตภายในประเทศของ ธ.ก.ส. สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลไทยจะให้การสนับสนุนพิเศษที่นอกเหนือจากการดำเนินงานตามปรกติ (extraordinary support) แก่ธนาคารได้อย่างทันท่วงที ในกรณีที่มีความจำเป็น มุมมองของฟิทช์ดังกล่าวมีปัจจัยในการพิจารณาจากความใกล้ชิดระหว่าง ธ.ก.ส. กับรัฐบาล โดยรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด สถานะทางกฎหมายของ ธ.ก.ส. ซึ่งเป็นธนาคารรัฐและมีกฎหมายเฉพาะในการจัดตั้ง อีกทั้งธนาคารยังได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตและอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐบาล
กระทรวงการคลังมีสัดส่วนการถือหุ้นใน ธ.ก.ส. ที่ 99.8% และมีอำนาจควบคุมการบริหารงานของธนาคาร ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานกรรมการธนาคาร ร่วมกับคณะกรรมการของธนาคารซึ่งได้รับความเห็นชอบในการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี ธ.ก.ส. ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีต เช่น การเพิ่มทุนและการค้ำประกันเงินกู้ยืม นอกจากนี้ธนาคารยังได้รับการชดเชยทางการเงิน (ซึ่งจะจัดสรรผ่านงบประมาณประจำปีของรัฐบาล) จากการที่ธนาคารสนับสนุนโครงการและนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล ทั้งนี้โครงการที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 60% ของสินทรัพย์รวมของธนาคาร ณ 31 มีนาคม 2562 ธ.ก.ส. ยังมีความสำคัญและความเชี่ยวชาญในการสนับสนุนนโยบายรัฐที่มีความเกี่ยวข้องกับภาคเกษตรและการพัฒนาชนบท
แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ สะท้อนถึงการที่ฟิทช์คาดว่าโอกาสที่รัฐบาลจะให้การช่วยเหลือสนับสนุนแก่ธนาคารนั้น ไม่น่าจะปรับตัวลดลงในระยะปานกลาง
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
อันดับเครดิตภายในประเทศของ ธ.ก.ส. ไม่มีโอกาสที่จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตเนื่องจากอันดับเครดิตภายในประเทศของธนาคารเหล่านี้เป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุด สัญญาณที่บ่งชี้ถึงการลดลงของโอกาสที่รัฐบาลจะให้การช่วยเหลือสนับสนุนแก่ ธ.ก.ส. เช่นในกรณีมีการเปลี่ยนแปลงสถานะทางกฎหมายของธนาคารหรือสัดส่วนการถือหุ้นของรัฐบาลลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อาจส่งให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศของธนาคาร แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง