ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ที่ค้ำประกันโดยบริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น

ข่าวยานยนต์ Wednesday February 2, 2005 08:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวที่ระดับ ‘AAA(tha)’ แก่หุ้นกู้ค้ำประกันชนิดทยอยชำระคืนเงินต้นของบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลล์ จำกัด (TIS) ครั้งที่ 1/2547 มูลค่า 3.5 พันล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2551 ในขณะเดียวกันบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ก็ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ ที่ระดับ ‘AAA(tha)’แก่ตั๋วแลกเงินเฉพาะชุดของบริษัท สยาม เอ็มซีที เทเลคอม จำกัด (SMCT) ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2548 โดยแนวโน้มของเครดิตทั้งสองมีเสถียรภาพ
การประกาศคงอันดับเครดิตทั้งสอง เนื่องจาก ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (International Foreign Currency Rating) ของบริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น (MC) ที่ระดับ ‘A’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ หลังจากที่ MC ตกลงที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ (MMC)
อันดับเครดิตภายในประเทศของ TIS สะท้อนถึงการค้ำประกันในลักษณะเต็มจำนวน ไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถยกเลิกได้จาก MC ซึ่งเป็นบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่น และค้ำประกันเงินต้นแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถยกเลิกได้จากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC) ปัจจุบันอันดับเครดิตของ JBIC ซึ่งถือหุ้น 100% โดยรัฐบาลญี่ปุ่นและมีฐานะเป็นธนาคารที่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่น อยู่ในระดับใกล้เคียงกับอันดับเครดิตของประเทศญี่ปุ่น โดย ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้จัดอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศของประเทศญี่ปุ่นไว้ที่ระดับ ‘AA’ แนวโน้มเครดิตเป็นลบ ส่วนอันดับเครดิตภายในประเทศของ SMCT สะท้อนถึงการค้ำประกันในลักษณะเต็มจำนวน ไม่มีเงื่อนไข และไม่สามารถยกเลิกได้จาก MC ซึ่งเป็นบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่น
แม้ว่าการที่ MC ประกาศลงทุนเพิ่มใน MMC จะเพิ่มความกังวลในเรื่องนโยบายการลงทุนและการบริหารความเสี่ยงของบริษัท อันดับเครดิตในปัจจุบันที่ระดับ ‘A’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ ยังคงสอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของ MC เนื่องจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทในช่วงปีงบการเงิน 2547 ที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2547 และช่วง 6 เดือนแรกของปีงบการเงิน 2548
MC ได้ชี้แจงว่าหลังจากการสนับสนุนทางการเงินครั้งนี้ การลงทุนทั้งหมดใน MMC จะเพิ่มขึ้นเป็น 2.4 แสนล้านเยน และสัดส่วนการถือหุ้นใน MMC จะเพิ่มเป็น 14% ซึ่งพิจารณารวมถึงการแปลงหุ้นบุริมสิทธิเป็นหุ้นสามัญด้วย การเสนอซื้อหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 7 หมื่นล้านเยนใน MMC คาดว่าจะไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานะทางการเงินของ MC เนื่องจากบริษัทมีสินทรัพย์สภาพคล่องอยู่ในระดับสูง โดยมีอยู่ถึง 7.3 แสนล้านเยน ณ สิ้นเดือนกันยายน 2547 นอกจากนี้ MC ยังคาดการณ์ว่าจะสามารถทำกำไรก่อนหักภาษีได้ถึง 2 แสนล้านเยนในปีงบการเงิน 2548 ซึ่งจะเพิ่มขึ้นประมาณ 61% จากปีก่อน และผลประกอบการที่แข็งแกร่งนี้จะสามารถรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการขาดทุนจากการลงทุนใน MMC ได้
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
ติดต่อ
เลิศชัย กอเจริญรัตนกุล, ผู้ช่วยกรรมการ, ภาคอุตสาหกรรม + 662 655 4760
อรวรรณ การุณกรสกุล, กรรมการ, ภาคอุตสาหกรรม + 662 655 4766
Vincent Milton, กรรมการผู้จัดการ + 662 655 4759
Satoru Aoyama, + 81 3 3288 2691--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ