กรุงเทพฯ--11 พ.ย.--ชมฉวีวรรณ
รายการเรียลลิตี้แข่งกินระดับประเทศ "ศึกเจ้านักกิน" รายการที่รวมพลนักแข่งกินมืออาชีพมาโชว์พลังกระเพาะเหล็กให้ผู้ชมได้ตื่นตะลึงเป็นประวัติการณ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ออกอากาศมาถึงอีพีที่ 8 กันแล้ว ขอบอกว่าความโหดของเมนูที่รายการนำมาพิสูจน์ศักยภาพของนักกินจุ โหดขึ้นทุกวัน โดยล่าสุดได้จัดเมนูขนมจีน หม้อปลาร้า ของดีเมืองย่าโม มาเสิร์ฟผู้เข้าแข่งขัน ส่วนกินหนีตาย Battle ได้ยกชุดเมนูอาหารอีสานจำนวน 20 จานมาพิสูจน์ความแข็งแกร่งกระเพาะ ของ เดียร์ และ อ้วน 2 ผู้เข้าแข่งขันที่ต้องมากินหนีตาย Battle และงานนี้อาหารอีสานทำให้ อ้วน นักกินจุรุ่นเก๋าต้องโบกมือลารายการและตำแหน่งเจ้านักกิน" คนแรกของประเทศไทย ที่รออยู่ข้างหน้า
ศึกเจ้านักกินอีพี 8 ผู้เข้าแข่งขันได้ไปเยือนถิ่นย่าโม หรือ จังหวัดนครราชสีมา (โคราช) และเมื่อรายการดำเนินมาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว เพื่อเป็นการเรียกขวัญและกำลังใจของผู้เข้าแข่งขัน งานนี้ทีมงานเลยพาผู้เข้าแข่งขันไปสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) สถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนโคราช เรียกว่าครั้งนี้เราได้เห็นผู้เข้าแข่งขันทุกคนต่างขอพรกันยกใหญ่ หลังจากนั้นเหล่านักกินจุได้มุ่งหน้าสู่สวนน้ำบุ่งตาหลั่วเฉลิมพระเกียรติ สวนสาธารณะอีกหนึ่งแห่งของจังหวัดที่ชาวโคราชได้ใช้ประโยขน์มากมาย อาทิ การปั่นจักรยาน การวิ่งในสวนที่ร่มรื่น และความตื่นเต้นได้เกิดขึ้นในสวนสาธารณะแห่งนี้เมื่อกาย – รัชชานนท์ พิธีกร และ โอ๊ต - อัครินทร์ Commentator ได้ประกาศเมนูในโจทย์ "กินรสไทย" ประจำสัปดาห์ก็คือ ขนมจีน หม้อปลาร้า เมนูที่ขึ้นชื่ออีกหนึ่งอย่างของชาวโคราช งานนี้ทำเอาผู้เข้าแข่งขันหลายคน งง กันไปเลยจ้า… เพราะไม่เคยได้ยินชื่อ แต่คนที่ดูจะเป็นถือไพ่เหนือกว่าใครเมื่อประกาศชื่อเมนูก็คือ เจมส์ เพราะเจมส์คือเจ้าถิ่นและคุ้นเคยกับเมนูนี้เป็นอย่างดี โดยเมนูขนมจีน หม้อปลาร้า ที่ผู้เข้าแข่งขันต้องรับประทานใน1 ชามมีขนมจีน 2จับใหญ่ และน้ำยาสูตรเด็ดรสจัดจ้านรวมน้ำหนัก 250 กรัม ซึ่งกติกาครั้งนี้เหล่านักกินต้องกินเส้นขนมจีนและเนื้อปลาในชามให้หมด เหลือได้แค่เครื่องสมุนไพร และก็เป็นเหมือนทุกครั้งเมื่อเสียงฆ้องดัง เหล่านักกินกระเพาะเหล็กของเราที่เหลือเพียง 8 คน ต่างออกสตาร์ทแบบไม่มีใครยอมใครและดูเหมือนว่าครั้งนี้ทุกคนจะโชว์ของและใส่พลังกันแบบไม่ยั้งกว่าทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมาโดยเฉพา อ้วน ในครั้งนี้ท็อปฟอร์มกว่าทุกสัปดาห์ ในขณะเดียวกัน แบงค์ ก็มีฟอร์มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อเวลาผ่านไป 15นาที ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำเอาผู้เข้าแข่งขันต้องหนักใจเมื่อ กาย พิธีกรของเราประกาศว่าให้ทีมงานยกชามออกจากโต๊ะผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งทำให้ผู้เข้าแข่งขันจะไม่สามารถรู้ได้ว่าตนเองกินไปจำนวนเท่าไรแล้ว การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป แต่สีหน้าผู้เข้าแข่งขันหลายคนหนักใจอยู่พอสมควร และจู่ ๆ ประมาณ 20 นาทีสุดท้าย ปั้น ซึ่งเป็นผู้ที่ทำผลงานได้ดีก็หยุดชะงัก เช่นเดียวกับผู้เข้าแข่งขันหลายคนที่หยุดกิน เพราะงานนี้ขนมจีนหม้อ ปลาร้า รสชาติจัดจ้านเสมือนพริกขี้หนู เล่นงานผู้เข้าแข่งขันกันแล้ว เนื่องจากเครื่องสมุนไพรต่าง ๆ ที่อยู่ในเมนูนี้ทำเอาหลายคนร้อนท้อง แสบปาก แต่ในขณะที่หลายคนหยุดชะงัก เดียร์ กลับเป็นคนเดียวที่กินต่อเนื่องมาตลอด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และไม่สามารถล้มเจ้าพ่อในโจทย์กินรสไทยอย่าง แน็ต ไปได้โดยแน็ตคือผู้ชนะ กินเมนูขนมจีน หม้อปลาร้า ไปได้ทั้งสิ้น 31 ชาม น้ำหนักรวม 7.75 กิโลกรัม เมนูนี้ทั้งแสบปาก ร้อนท้อง ทำให้เดียร์และอ้วน ต้องไปแข่งกินในโจทย์กินหนีตาย Battle และก่อนจะไปกินหนีตาย Battle ผู้เข้าแข่งขันได้ผ่อนคลายเที่ยวชมความสวยงามรอบตัวเมืองโคราช แวะชิมของอร่อยที่ตลาดเซฟวัน ตลาดยามค่ำคืนที่มีแต่ของอร่อยและสัญชาตญาณของเหล่านักกินจุไม่มีพลาด แม้จะเกือบไม่รอดในโจทย์กินรสไทย แต่เมื่อได้เห็นของกินจำนวนมากในตลาดเลยต้องจัดหนักเช่นเดิม แวะทุกร้าน กินทุกร้าน
มาถึงโจทย์กินหนีตาย Battle อ้วน และ เดียร์ พร้อมเพื่อน ๆ ได้ไปไหว้พระและเที่ยวชมความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมตกแต่งภายในวัดดงใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ก่อนพบกับเมนูในโจทย์กินหนีตาย Battle กับเมนูสุดแซ่บเอกลักษณ์ของชาวอีสานคือ "ชุดเมนูอาหารอีสาน" 20 เมนู น้ำหนักรวม 6 กิโลกรัม อาทิ ตำโคราช, ตำข้าวโพด, ตำขนมจีน, ตำไทยไข่เค็ม, ไก่ย่าง, ไส้กรอกอีสาน, ผัดหมี่โคราช และ แกงเห็ด เป็นต้น โดยกติกาครั้งนี้ 2 นักกินจุต้องกินชุดเมนูอาหารอีสาน โดยสามารถวางแผนการกินของตนเองได้ว่าจะกินอะไรก่อนหรือหลัง และเลือกกินอันไหนให้หมด เพราะรายการจะวัดคนที่กินได้น้ำหนักมากที่สุดคือผู้ชนะ และการแข่งขันกินอาหารหลาย ๆ อย่างในชุดเดียวครั้งนี้ อ้วน ด้วยประสบการณ์ที่เก๋ากว่าอาจได้เปรียบ แต่ เดียร์ แม้จะเป็นนักกินรุ่นใหม่ก็ไม่ได้ดูถอดใจ เพราะเค้าก็มีเทคนิคการกินเร็วจึงน่าจับตามองและการแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือด อ้วนและเดียร์ไม่มีใครยอมใคร แต่สุดท้ายการแข่งขันต้องมีผู้แพ้และผู้ชนะ และผู้ชนะมีได้เพียง 1 เดียว ซึ่งอ้วนกินชุดเมนูอาหารอีสานไปได้ทั้งสิ้น 14 จานน้ำหนัก 2.66 กิโลกรัม ซึ่งจำนวนนี้ยังไม่มากพอ เพราะเดียร์ กินไปได้ทั้งสิ้น 16 จาน รวมน้ำหนัก 3.16 กิโลกรัม งานนี้อ้วนเลยต้องยอมรับการพ่ายแพ้ให้นักกินรุ่นน้องพร้อมโบกมือลารายการและตำแหน่งเจ้านักกินคนแรกของประเทศไทย ที่รออยู่ข้างหน้าไปโดยปริยาย
ศึกเจ้านักกิน สัปดาห์หน้า อีพี 9 โค้งสุดท้ายที่คนไทยทุกคนใกล้รู้แล้วว่า ใครจะสามารถคว้าตำแหน่งเจ้านักกินคนแรกของประเทศไทยไปครองได้สำเร็จ ความดุเดือด ความเข้มข้นต้องทวีคูณเป็นสิบ งานนี้ขอเตือนว่าห้ามพลาดเรียลลิตี้การแข่งกินจุที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยพบกับรายการ"ศึกเจ้านักกิน" ได้ทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.30 น. ทางช่อง 7HD เท่านั้น!