กรุงเทพฯ--11 พ.ย.--การบินไทย
วันนี้ (11 พฤศจิกายน 2562) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะกำกับดูแลบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เดินทางตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP กรมพัฒนาชุมชน ของกลุ่มหัตถกรรมสแตนเลสบ้านห้วยหวาย ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ OTOP จำหน่าย บนเครื่องบินของการบินไทย โดยมี นายสุธีรัชต์ ศิริพลานนท์ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบริการบนเครื่องบิน บริษัท การบินไทยฯ และนายอดิวิชญ์ สงศิริ อาจารย์ที่ปรึกษาการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP กรมพัฒนาชุมชน ร่วมบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP เพื่อจำหน่ายบนเครื่องบิน ณ กลุ่มหัตถกรรม สแตนเลสบ้านห้วยหวาย ตำบลหนองปลาไหล อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจ โดยการพัฒนาและนำผลิตภัณฑ์ OTOP จำหน่ายบนเครื่องบินตนในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมที่กำกับดูแลบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติสามารถช่วยเหลือโครงการดังกล่าวด้วยการเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ และช่องทางการตลาดให้ชาวต่างชาติซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้สะดวก ซึ่งโครงการนี้ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลที่ช่วยให้ประชาชนมีอาชีพเสริม และเพิ่มรายได้อย่างกว้างขวาง เนื่องจากการบินไทยทำการบินประมาณ 70,000 เที่ยวบิน รองรับผู้โดยสารนานาชาติจากทั่วโลกประมาณ 24 ล้านคน (จากสถิติปี 2561) อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนมีอาชีพเสริม และเพิ่มรายได้อย่างกว้างขวาง ตลอดจนเผยแพร่ อนุรักษ์ ส่งเสริมฝีมือภูมิปัญญาของคนไทย ทั้งนี้ กลุ่มหัตถกรรมสแตนเลสบ้านห้วยหวาย จังหวัดกาญจนบุรี เป็นหมู่บ้านที่ผลิตสินค้า OTOP โดยเกิดจากการรวมกลุ่มของสมาชิกประกอบอาชีพเกษตรกร และผลิตผลิตภัณฑ์ OTOP เป็นอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ สร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพ และความปราณีต อีกทั้งได้รับการคัดสรรเป็น OTOP ระดับ 3 ดาว ของประเทศซึ่งผลิตหัตถกรรมสแตนเลสที่มีความหลากหลาย แสดงออกถึงอัตลักษณ์วิถีของความเป็นไทย และมีความเป็นสากล จากการสร้างสรรค์ลวดลายต่างๆ เพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มหัตถกรรมสแตนเลส บ้านห้วยหวายได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ OTOP จำหน่ายบนเครื่องบินนั้น ได้แก่ ชุดแก้วกาแฟหูช้างเอราวัณ ชุดช้อนกาแฟและส้อมผลไม้ลายด้ามลิเดียกลมทุบลาย ชุดช้อนส้อมลายด้ามเชือกเถาวัลย์ ชุดส้อมผลไม้ ลายด้ามเชือก นอกจากนี้ บริษัท การบินไทยฯ ยินดีสนับสนุนการนำผลิตภัณฑ์ OTOP จากหมู่บ้านต่างๆทั่วประเทศ เพื่อจำหน่ายบนเครื่องบิน โดยสามารถติดต่อกรมพัฒนาชุมชนเพื่อนำผลิตภัณฑ์มาเข้าโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP เพื่อจำหน่ายบนเครื่องบิน ต่อไป
นายสุธีรัชต์ ศิริพลานนท์ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบริการบนเครื่องบิน บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ตอบรับนโยบายรัฐบาลสนับสนุนโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP เพื่อจำหน่ายบนเครื่องบินโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ พร้อมช่วยเหลือคนไทย เนื่องจากการบินไทยมีประสบการณ์ในด้านการบริการผู้โดยสารนานาชาติจากทั่วโลกตลอดระยะเวลา 60 ปี พร้อมแนะนำการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ด้วยประสบการณ์ การให้บริการภายใต้แนวคิด เล็ก ดี มีคุณภาพ ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเห็นผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาคนไทยได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักย ภาพ ในเชิงรูปลักษณ์ คุณภาพ มาตรฐาน และช่องทางการจำหน่ายที่สามารถเข้าถึง และตอบสนองความต้องการของตลาดได้ทุกระดับ และสิ่งสำคัญยิ่งคือ การเสริมสร้างรายได้ให้กับประชาชน พร้อมยกระดับเป็น Brand OTOP สู่สากล ด้วยโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP เพื่อจำหน่ายบนเครื่องบิน โดยการบินไทยได้ให้ความร่วมมือกับกรมพัฒนาชุมชนนำสื่อในรูปแบบแคตตาล็อกเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP
วางในทุกเที่ยวบินของการบินไทย รวมทั้งสำนักงานการบินไทยทั่วโลก ซึ่งแคตตาล็อกดังกล่าวเป็นราย 4 เดือน และสับเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดทั้งปี สามารถช่วยขยายตลาดผลิตภัณฑ์ OTOP ของไทยได้เป็นอย่างดี จากผลการดำเนินงานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 จนถึงปัจจุบัน สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายบนเครื่องบินได้จำนวน 1,107 ผลิตภัณฑ์ จากผู้ประกอบการ OTOP จำนวน 203 ราย สร้างรายได้มากกว่า 273 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวมีหน่วยงานภาคีร่วมการดำเนินงานจำนวน 8 หน่วยงาน ได้แก่ กรมการพัฒนาชุมชน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัท คิงพาวเวอร์ อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด และบริษัท มอลล์ (ไทยแลนด์) จำกัด
กระทรวงคมนาคม โดยบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมให้การสนับสนุนโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP เพื่อจำหน่ายบนเครื่องบิน ให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดทุกระดับ ส่งเสริมภูมิปัญญาของคนไทยในการยกระดับผลิตภัณฑ์ OTOP ให้ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ และสิ่งสำคัญคือการส่งเสริมรายได้ให้กับประชาชนให้มีความอยู่ดี กินดี อย่างยั่งยืน