กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. นำโครงการเทคโนโลยีเกี่ยวกับดิจิทัลร่วมออกบูธในงาน Singapore FinTech Festival 2019 (SFF 2019) ณ Singapore EXPO สาธารณรัฐสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 11 – 13 พฤศจิกายน 2562 สอดคล้องแผนพัฒนาตลาดทุนด้านส่งเสริมกิจการเอสเอ็มอีให้ปรับตัวเท่าทันความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี พร้อมชูแนวทางโครงการนำร่องในการนำ DLT มาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในตลาดทุนไทย โดยมีผู้เข้าชมถึง 60,000 คน จาก 130 ประเทศทั่วโลก
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวหลังพิธีเปิดบูธ ก.ล.ต. โดยมีนายสราวุธ เบญจกุล กรรมการ ก.ล.ต. เป็นประธานพิธี พร้อมด้วยนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค นายประสัณห์ เชื้อพานิช นายวิพุธ อ่องสกุล กรรมการ ก.ล.ต. นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาศักยภาพด้านการแข่งขันของตลาดทุน และนายเจษฎา พรหมจาต อนุกรรมการฯ รวมทั้ง นางเมธินี เทพมณี ประธานคณะอนุกรรมการด้านยุทธศาสตร์ดิจิทัลของตลาดทุน รวมทั้งผู้บริหาร ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ว่า "งาน SFF 2019 จัดโดย Monetary Authority of Singapore (MAS) ซึ่งถือเป็นงานสัมมนาและนิทรรศการเกี่ยวกับฟินเทคที่ทั่วโลกให้ความสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่ง โดย Mr. Ravi Menon Managing Director ของ MAS กล่าวในช่วงพิธีเปิดว่าปีเน้นในเรื่องการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยกิจการในเรื่องการระดมทุนให้เติบโตอย่างยั่งยืนให้รวมถึงการเข้าถึงแหล่งทุนของ SMEs นอกจากนี้ยังได้ให้ความหมายเกี่ยวกับฟินเทค 3 ด้านได้แก่ นวัตกรรม (innovation) การเข้าถึงและครอบคลุม (inclusion) และแรงบันดาลใจ (inspiration) ซึ่งมีผู้เข้าร่วมลงทะเบียนมากถึง 60,000 คน จาก 130 ประเทศทั่วโลก โดย ก.ล.ต. เป็นหนึ่ง ในผู้ร่วมจัดแสดงกว่า 1,000 ราย
งานสัมมนา SFF 2019 ในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ ก.ล.ต. เข้าร่วมออกบูธโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในเวทีนานาชาติถึงบทบาทเชิงรุกของ ก.ล.ต. ในการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการพัฒนาตลาดทุน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการทำงาน ลดต้นทุนของผู้ประกอบธุรกิจ ช่วยเพิ่มความโปร่งใส น่าเชื่อถือ และตรวจสอบได้ โดยการนำ Distributed Ledger Technology (DLT) มาใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของตลาดทุนไทย
นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังให้ความสำคัญกับการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) และกิจการร่วมลงทุน ในการปรับตัวให้เท่าทันกับเทคโนโลยี และสามารถใช้ประโยชน์จากตลาดทุนในการระดมทุนตามนโยบายของรัฐบาล ควบคู่กับการคุ้มครองผู้ลงทุน ซึ่งภายในบูธ ก.ล.ต. นั้น ยังมีธุรกิจเอสเอ็มอีที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับดิจิทัล จำนวน 4 บริษัท เข้าร่วมจัดแสดงภายในบูธ ก.ล.ต. ด้วย โดย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท โกลบอล ไพร์ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท โกลบอล ฟินเทค จำกัด เสนอโดยสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และอีก 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ดิจิโอ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท สมาร์ทคอนแทรคท์ (ไทยแลนด์) จำกัด เสนอโดยสมาคมไทย ผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน ทั้งนี้ เพื่อเป็นโอกาสในการแสดงศักยภาพและความสามารถของผู้ประกอบธุรกิจไทยให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศอีกด้วย"
สำหรับภายในบูธสำนักงานในช่วงเช้าของวันแรก มีผู้เข้ามาสนใจสอบถามข้อมูลกว่า 200 คน โดยส่วนใหญ่สอบถามเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของสำนักงานในด้านดิจิทัล โครงการ DLT และข้อมูลเกี่ยวกับการระดมทุนแบบคราวด์ฟันดิง