กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--ธนาคารกสิกรไทย
เวิร์คเมท (Workmate เดิมชื่อ Helpster) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจัดหาพนักงานแบบครบวงจรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับเงินลงทุนจำนวน 5.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมทั้งจากบีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล หลังธุรกิจโตถึง 10 เท่านับตั้งแต่มกราคม 61 ที่ผ่านมา โดยเวิร์คเมทจะนำเงินทุนนี้ไปยกระดับตลาดแรงงานนอกระบบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีมูลค่าตลาดสูงประมาณ 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี
การจ้างงานนอกระบบ (Informal Labor Staffing) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีสัดส่วนมากถึง 50% ของตลาดแรงงานทั้งหมด ซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณการจ้างงานสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ทั้งนี้เวิร์คเมท เป็นแพลตฟอร์มจัดหางานที่เปิดโอกาสให้ผู้หางานกว่า 100 ล้านคนในภูมิภาคเข้าถึงโอกาสการร่วมงานกับบริษัทชั้นนำหลายร้อยบริษัท อาทิ Central Group, True Corp, Lazada, Grab และ NinjaVan เป็นต้น มีพันธกิจที่จะยกระดับตลาดแรงงานนอกระบบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการช่วยให้พนักงานมีรายได้ที่สม่ำเสมอและมั่นคง ในขณะที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้หางานชั่วคราวที่ผ่านการคัดเลือกแล้วได้อย่างรวดเร็ว
บริษัท เวิร์คเมค จำกัด (Workmate) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจัดหาพนักงานแบบครบวงจรประกาศการระดมทุนรอบซีรี่ส์เอ เป็นจำนวนเงิน 5.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นำโดย Atlas Ventures และร่วมลงทุนโดย Gobi Partners, บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล (Beacon Venture Capital) บริษัทเงินร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทย และนักลงทุนอื่น ๆ โดยเวิร์คเมทจะนำเงินทุนนี้ไปขยายฐานลูกค้า พัฒนาเทคโนโลยี และขยายบริการไปยังตลาดใหม่ ทั้งนี้นับตั้งแต่มกราคม 2559 เวิร์คเมทมีการระดมทุนไปแล้วทั้งสิ้น10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และธุรกิจเติบโตเพิ่มขึ้น 10 เท่านับตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 โดยบริษัทมีพันธกิจในการยกระดับตลาดแรงงานนอกระบบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการจ้างงานนอกระบบถึง 50% ของการจ้างงานทั้งหมด ซึ่งตลาดแรงงานนอกระบบมีมูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี อย่างไรก็ตามส่วนหนึ่ง นายจ้างยังแสวงหาลูกจ้างด้วยวิธีการดั้งเดิม เช่น การแนะนำแบบปากต่อปาก ซึ่งทำให้เข้าถึงพนักงานจำนวนน้อยและไม่สามารถเลือกพนักงานที่มีคุณสมบัติหรือประสบการณ์ตามที่ต้องการได้
มิสเตอร์แมทธิว วาร์ด ผู้ก่อตั้งบริษัทเวิร์คเมท มีความตั้งใจจะเปลี่ยนตลาดการจ้างงานให้ทันสมัยและคล่องตัวมากขึ้น จึงร่วมก่อตั้งบริษัทกับผู้ร่วมก่อตั้งคนอื่นที่ล้วนมีประสบการณ์ในการสร้างบริษัทเทคโนโลยีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาแล้วมากมาย เช่นAdmax Network, Ardent Capital, Ensogo และ aCommerce
" เวิร์คเมทช่วยให้นายจ้างสามารถเข้าถึงพนักงานชั่วคราวได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง เช่น นายหน้า ทำให้นายจ้างสามารถลดค่าใช้จ่ายในการจ้างงานลงกว่า 30% ซึ่งระบบการจ้างงานแบบนายหน้านี้ไม่มีการใช้เทคโนโลยีและยังคงเป็นรูปแบบเดิมมานานกว่า 40 ปี การนำแพลตฟอร์มมาใช้ในระบวนการจ้างงานกำลังเป็นที่นิยมทั่วโลก แม้กระทั่งบริษัทชั้นนำ อาทิ Uber ยังมีการพัฒนาแพลตฟอร์มจ้างงานชื่อ Uber Works มาใช้ในสหรัฐฯ " แมทธิว กล่าว
เวิร์คเมทตั้งใจที่จะเข้ามาสนับสนุนตลาดแรงงานนอกระบบในภูมิภาคนี้ ที่มีความต้องการพนักงานชั่วคราวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในงานบริการ งานผลิต หรืองานรับจ้างทั่วไป ทั้งนี้ แพลตฟอร์มหางานส่วนใหญ่จะเน้นการจ้างงานประจำของพนักงานบริษัท แต่เวิร์คเมทเห็นว่า โอกาสที่แท้จริงนั้นอยู่ที่การจ้างงานชั่วคราว ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และสามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ปัญหาได้ โดยสร้างประสิทธิภาพในวงกว้าง
ธุรกิจที่มีความต้องการหาพนักงานที่มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอมักต้องใช้เวลาอย่างมากในการคัดเลือกพนักงาน และมักขาดข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานของพนักงานเหล่านี้ ขณะเดียวกันฝั่งผู้หางานใช้เวลามากในการหางาน โดยในบางครั้งอาจใช้เวลานานถึงหลายสัปดาห์ ทำให้ผู้หางานเหล่านี้ไม่สามารถสร้างรายได้ตามที่ต้องการ
เวิร์คเมทจึงเข้ามาตอบโจทย์ของตลาด ซึ่งพนักงานที่อยู่บนแพลตฟอร์มของเวิร์คเมทจะได้รับการคัดกรองเบื้องต้นผ่านการสัมภาษณ์และคัดกรองโดยทีมงานของเวิร์คเมทเอง จึงเป็นพนักงานที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้ ต่างจากแหล่งประกาศหางานอื่นทั่วไป นายจ้างสามารถเลือกพนักงานและดำเนินการว่าจ้างผ่านแพลตฟอร์มได้ทันที หากมีพนักงานที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ต้องการและมีประวัติการทำงานที่ดี
นอกจากนี้แพลตฟอร์มยังช่วยจัดการในเรื่องสัญญาจ้างงาน การลงเวลาเข้าออก และการชำระค่าจ้าง อย่างครบวงจรด้วย พนักงานที่ผ่านการคัดเลือกและอยู่บนแพลตฟอร์มของเวิร์คเมท สามารถเห็นข้อเสนองานได้ทุกวันบนแอปพลิเคชันของเวิร์คเมท โดยงานเหล่านี้ถูกคัดกรองมาให้ตรงตามความสามารถของพนักงาน เวิร์คเมทยังมีการปกป้องพนักงานจากปัญหาค่าจ้างที่ไม่โปร่งใส และมีสวัสดิการให้พนักงาน รวมถึงมีแผนในอนาคตในการจัดหาผลิตภัณฑ์ประกันและการเงินต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ให้แก่พนักงานอีกด้วย ซึ่งบริการเหล่านี้ไม่เพียงช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของพนักงาน แต่ยังทำให้การทำงานแบบชั่วคราวเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจของคนโดยทั่วไปอีกด้วย
มิสเตอร์แมทธิว กล่าวว่า เวิร์คเมทกำลังสร้างสิ่งที่แตกต่างในภูมิภาคนี้ เราไม่ใช่แหล่งประกาศหางานหรือเป็นเพียงคนจับคู่พนักงานกับนายจ้างเท่านั้น แต่เราเป็นโซลูชั่นส์การจ้างงานที่ครบวงจร และมุ่งหวังที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของแรงงานในภูมิภาค รวมถึงช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานไปได้อย่างเต็มที่ โดยการจัดการพนักงานชั่วคราวที่มีคุณภาพให้อย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอ
นายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด กล่าวว่า บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ธนาคารกสิกรไทยเพิ่มศักยภาพในการให้บริการทางการเงินที่ดีแก่ตลาดแรงงานที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างเต็มที่ (Underserved Population) และเชื่อมั่นว่าด้วยองค์ความรู้ ประสบการณ์ และความตั้งใจของเวิร์คเมทที่จะยกระดับความเป็นอยู่ของกลุ่มพนักงาน ประกอบกับความสามารถในการเติบโตทางธุรกิจทั้งในประเทศไทยและอินโดนีเซียในปีที่ผ่านมา จะช่วยให้ธนาคารกสิกรไทยสามารถเข้าใจและเข้าถึงตลาดนี้ได้มากขึ้น และให้บริการทางการเงินที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาพการเงินแก่บุคคลากรและพนักงานในตลาดแรงงานนี้
เวิร์คเมทมีสำนักงานใหญ่อยู่ในสิงคโปร์ และมีสำนักงานอยู่ในหลายเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานคร กรุงจากาตาร์ บาหลี และมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังเมืองใหญ่อื่น ๆ ภายในปี 2563 ที่ผ่านมาเวิร์คเมทได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มธุรกิจชั้นนำทั้งในและนอกแวดวงสตาร์ทอัพ โดยลูกค้าในประเทศไทยรวมถึงบริษัท aCommerce, Flash Express, JD Central, Taco Bell, Lazada และ Chilindo และลูกค้าในประเทศอินโดนีเซียมี Grab, Ismaya Group, NinjaVan, Kopi Kenangan และ STOQO ในปี 2561 เวิร์คเมทเป็นผู้ให้บริการจัดหาพนักงานกว่าพันคนให้กับเอเชียนเกมส์ในกรุงจาการ์ตาและปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย
เกี่ยวกับบีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล (Beacon Venture Capital)
บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล (บีคอนวีซี) ตั้งขึ้นในปี 2560 โดยทำหน้าที่เป็นกองทุนร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทย บีคอนวีซีลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อต่อยอดการดำเนินงานเชิงเทคโนโลยีของธนาคาร โดยเน้นลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นมาใหม่ (Early Stage) จนถึงบริษัทที่อยู่ในช่วงขยายธุรกิจ (Growth Stage) โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเทคโนโลยีด้านการเงิน (Fintech) เท่านั้น แต่รวมถึงเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค (Consumer Technology) และเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจ (Enterprise Technology) ทั้งนี้ กองทุนบีคอนวีซีมีเงินลงทุนทั้งสิ้น 135 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และได้ลงทุนในหลายบริษัททั้งในและต่างประเทศ เช่น FlowAccount, Eventpop, Jitta, Grab, InstaReM และ Aspire
เกี่ยวกับเวิร์คเมท (Workmate)
เวิร์คเมท (เดิมชื่อ Helpster) เป็นแพลตฟอร์มการจัดหาพนักงานแบบ on-demand ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงบุคลากรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการจ้างงานชั่วคราว หรือแบบประจำ เวิร์คเมทมีการดำเนินงานในอินโดนีเซีย และไทย ซึ่งช่วยให้ผู้หางานมีโอกาสในการหาและเข้าถึงโอกาสการทำงาน และสร้างรายได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เวิร์คเมทให้บริการอย่างอย่างครบวงจรด้วยเทคโนโลยีที่คอยดูแลการคัดกรองพนักงาน การลงเวลาเข้างาน การชำระค่าจ้าง และประเด็นอื่น ๆ ในการจ้างงาน เวิร์คเมทก่อตั้งโดยคุณแมทธิว วาร์ดและคุณจอห์น ศรีวรกุล