กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่
บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) โชว์ผลงานไตรมาส 3 สุดล้ำกำไรสุทธิ 136.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 52.85 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 89.22 ล้านบาท "ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง" ส่งสัญญาณถึงความแข็งแกร่ง จากกระแสเงินสดในมือที่มีอยู่ 754 ล้านบาท และกำไรสะสม 184.47 ล้านบาท เตรียมชงบอร์ดพิจารณาจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น
นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (WP) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจตามแผนที่ได้วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการต้นทุน รวมถึงการขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลทำให้ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562) มีกำไรสุทธิ 136.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.15 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 52.85 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 89.22 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 3,816.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.76 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 3,798.95 ล้านบาท
ขณะที่ปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดรวมทั้งสิ้น 754.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.20 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.21 เมื่อเทียบกับ สิ้นปี 2561 โดยปัจจัยหลักมาจากเงินสดรับจากกิจกรรมดำเนินงาน เนื่องจากกำไรสุทธิที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนกำไรสะสมจากงบการเงินรวมเพิ่มขึ้นเป็น 184.47 ล้านบาท ดังนั้นจึงเตรียมนำเสนอคณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาเกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผลงวดปี 2562 ให้กับผู้ถือหุ้น
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีเป้าหมายสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจและพัฒนาความสามารถทางการแข่งขันให้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงมองหาโอกาสใหม่ๆ ในธุรกิจ เพื่อขยายความหลากหลายและกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการผลิตถังแก๊สสำหรับภาคครัวเรือน เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มผลกำไรให้กับบริษัท รวมถึงสร้างแบรนด์ของบริษัทแม่ "WP Energy" ให้ความมีความแข็งแกร่งควบคู่กับแบรนด์ "Worldgas" ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าหลักของบริษัทฯ ในปัจจุบันให้เป็นที่รู้จัก ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ WP มีผลประกอบการที่ดี มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
"ผลประกอบการของบริษัทฯ ถือว่าเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดีและเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ สืบเนื่องมาจากตัวเลขรายได้จากการขายในกลุ่มลูกค้าภาคครัวเรือน และอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับ บริษัทฯ มีความสามารถในการบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมั่นใจว่าภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีแนวโน้มสดใส โดยบริษัทฯ จะดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพื่อสร้างฐานกำไรให้มีความแข็งแกร่งในระยะยาว และในอนาคตเตรียมจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น จากกำไรสะสมที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง" นางสาวชมกมล กล่าวในที่สุด