กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ
ห้องอาหาร เอเลเมนท์ (Elements Restaurant) โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) ได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลิน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ถือเป็นร้านอาหารคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การหยุดแวะชิมจากคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พักระดับโลก 'มิชลิน ไกด์' ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2563 ฉบับ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต และพังงา หรือ MICHELIN Guide Thailand 2020 Bangkok Chiang Mai Phuket and Phang-Nga
เช้าวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 มิชลิน และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เผยผลการคัดเลือกและจัดอันดับโรงแรม และ ร้านอาหารในกรุงเทพฯ ของคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พักระดับโลก 'มิชลิน ไกด์' ประเทศไทย ประจำปี 2020 ฉบับ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต และพังงา โดยมีร้านอาหารในกรุงเทพมหานครที่ได้รับดาวมิชลินทั้งสิ้น 29 แห่ง และห้องอาหาร เอเลเมนท์ ก็เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลิน ถือเป็นร้านอาหารคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การหยุดแวะชิม โดยได้รับดาวมิชลินต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
มร. นิกซ์ แฮมเมอร์ (Mr. Niek Hammer) ผู้จัดการทั่วไป (General Manager) โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ กล่าวว่า "รางวัลนี้ถือเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศสำหรับทีมงานทุกท่านที่ห้องอาหารเอเลเมนท์ และเป็นอีกรางวัลอันทรงเกียรติที่ได้รับในรอบ 12 เดือน การได้รับดาวมิชลินอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ถือเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ถึงความสามารถและความมุ่งมั่นตั้งใจของพนักงานทุกคนทั้งในฝ่ายครัวที่ใส่ใจในการปรุงอาหารทุกขั้นตอนอย่างพิถีพิถันเพื่อให้อาหารทุกจานคงคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ และฝ่ายบริการที่ให้บริการลูกค้าทุกคนอย่างตั้งใจเพื่อสร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน ซึ่งทุกฝ่ายจะร่วมมือกันพัฒนาห้องอาหารเอเลเมนท์โดยมุ่งมั่นรักษาคุณภาพและมาตราฐานเพื่อเพิ่มจำนวนดาวมิชลินต่อไป"
เมื่อต้นปีที่ผ่านมาห้องอาหารเอเลเมนท์ได้รับการคัดเลือกให้เป็นร้านอาหารในประเทศไทยที่ดีที่สุด 5 อันดับแรก จาก Thailand Tatler's Best Restaurant Guide 2019 นอกจากนั้นยังได้รับรางวัลจาก BK Magazine's Top Tables Bangkok 2019 การได้รับรางวัลจากสถาบันที่มีชื่อเสียงหลายแห่งเหล่านี้ ถือเป็นแรงผลักดันให้พนักงานทุกคน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายครัว หรือฝ่ายการบริการของห้องอาหารเอเลมนท์ มุ่งมั่นและตั้งใจพัฒนาทั้งเมนูอาหารและการบริการให้ดียิ่งขึ้นเพื่อให้ลูกค้าทุกคนประทับใจและสร้างประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน ความมุ่งมั่นและตั้งใจพัฒนานี้ถือเป็นหนึ่งในหลักการบริหารงานตามวิสัยทัศน์ และพันธกิจ (Vision & Mission) ของโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ที่มีเป้าหมายพัฒนาการบริการให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ดั่งคำที่ใช้ในภาษาญี่ปุ่นว่า Kaizen (ไคเซน)
เชฟฮันส์ ซาห์เนอร์ (Hans Zahner) หัวหน้าพ่อครัว (Chef de Cuisine) ประจำห้องอาหารเอเลเมนท์ กล่าวว่า "ผมขอแสดงความยินดีกับทีมงานทุกคนที่ห้องอาหารเอเลเมนท์สำหรับดาวมิชลินอีกหนึ่งดวงในปีนี้ ดาวมิชลินไม่ได้เป็นเพียงรางวัลจากการทำงานอย่างหนักของทีมงานที่ห้องอาหารเอเลเมนท์ทุกคน แต่ยังถือเป็นรางวัลที่สะท้อนความสามารถของทีมงานทุกคน รวมไปถึงคำมั่นสัญญาที่จะมุ่งมั่นให้บริการแต่อาหารอร่อยคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การหยุดแวะชิมตามมาตราฐานดาวมิชลิน"
ห้องอาหาร เอเลเมนท์ ตั้งอยู่บนชั้น 25 ของโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เปิดให้บริการวันอังคาร ถึงวันเสาร์ เฉพาะมื้อค่ำ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 22.30 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง ติดต่อ 02 687 9000 หรือ elements@okurabangkok.com หรือที่เว็บไซต์ www.okurabangkok.com
โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok)โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เป็นโรงแรมแห่งแรกในกลุ่มเพรสทีจ ที่ถือเป็นพัฒนาการก้าวสำคัญของเครือโอกุระ โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ทส์ (Okura Hotels & Resorts) โรงแรม โอกุระแห่งแรกเปิดให้บริการที่กรุงโตเกียวในปี พ.ศ. 2505 มีการจัดตั้งเครือโรงแรมและรีสอร์ทโอกุระในปี พ.ศ. 2501
โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ นำหลักการ "วะ" ของญี่ปุ่นมาผสานเข้ากับปรัชญา "Best A.C.S." ของ โอกุระซึ่งมีความหมายถึงความมุ่งมั่นที่จะมีห้องพักที่ดีที่สุด (Best Accommodation) มีการบริการอาหารและเครื่องดื่มที่ดีที่สุด (Best Cuisine) และ มีการบริการที่ดีที่สุด (Best Service) เพื่อมอบความสะดวกสบายและความหรูหราให้กับแขกที่เข้าพักทุกท่าน ที่มาเยือนกรุงเทพมหานคร มหานครที่ได้รับการยอมรับจากนักเดินทางทั่วโลกอยู่แล้วว่ามีการบริการลูกค้าที่เป็นเลิศ เปิดให้บริการตั้งแต่ เดือนพฤษภาคม 2555 และเป็นสมาชิกของ ลีดดิ้ง โฮเทลส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ (Leading Hotels of the World) โรงแรมฯ ตั้งอยู่ภายใน อาคาร ปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ (Park Venture Ecoplex) ใจกลางย่านธุรกิจบนถนนวิทยุ เชื่อมตรงจากรถไฟฟ้าสถานีเพลินจิต มีห้องพักทั้งหมด 240 ห้อง มีห้องอาหาร สปา ห้องออกกำลังกาย และสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ที่ยื่นออกจากตัวอาคารบนชั้น 25 เป็นตำแหน่งที่สามารถชมวิวเมืองกรุงเทพฯได้ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.okurabangkok.com