กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--สามารถคอร์ปอเรชั่น
กลุ่มบริษัทสามารถ เผยผลการดำเนินงานปี 2550 ทำรายได้ 19,649 ล้านบาท มั่นใจปีนี้โอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นเกือบ 50 เปอร์เซนต์ โดยตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 30,000 ล้านบาท เหตุเพราะปัจจัยบวกทั้งแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ความชัดเจนทางการเมือง ความพร้อมในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ การสร้างแบรนด์ไอ-โมบายในต่างประเทศ รวมถึงช่องทางการตลาดของบริษัทฯ ที่แข็งแกร่งทั้งในและต่างประเทศ
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผยผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทสามารถว่าในปี 2550 ที่ผ่านมาบริษัทฯ ต้องประสบปัญหาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้จากสถานการณ์เศรษฐกิจ การเมือง การใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐชะงักงัน ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง ตลอดจนต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการปรับราคาน้ำมัน ส่งผลให้ผลประกอบการโดยรวมไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 19,649 ล้านบาท ลดลงประมาณ 34 เปอร์เซนต์ มีกำไรสุทธิ 574 ล้านบาท โดยรายได้รวมดังกล่าวมาจาก 3 กลุ่มธุรกิจในเครือ ประกอบด้วย
กลุ่มบริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) หรือ SIM มีรายได้ปี 2550 รวม 15,434 ล้านบาท ลดลง 37 เปอร์เซนต์ อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปี 49 ทั้งนี้ การลดลงของรายได้เป็นผลมาจากการปรับลดสัดส่วนการจำหน่ายมือถือ Branded Phone ในตลาดต่างประเทศ เพราะบริษัทฯ มุ่งเน้นการจำหน่ายมือถือเฮาส์แบรนด์ไอ-โมบายให้มากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยในปี 50 สามารถจำหน่ายเครื่องไอ-โมบายได้กว่า 3 ล้านเครื่อง ทำให้บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นสูงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 94 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 321 ล้านบาท ลดลง 34 เปอร์เซนต์ ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการหยุดให้บริการแก่กิจการร่วมค้าไทย-โมบาย ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 50 ทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถบันทึกรายได้แต่ยังมีการบันทึกค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นๆ ตลอดจนค่าเสียหายที่เกิดขึ้น รวมเป็นเงินประมาณ 124 ล้านบาท ไม่รวมค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากดอกเบี้ยจ่ายอีก 40 ล้านบาท สรุปแล้วหากไม่มีผลกระทบจากโครงการดังกล่าว บริษัทฯ จะมีกำไรเพิ่มขึ้นอีก 164 ล้านบาท
กลุ่มบริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ SAMTEL ซึ่งได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากโครงการประมูลภาครัฐ มีรายได้รวม 2,177.5 ล้านบาท ลดลง 20 เปอร์เซนต์ มีกำไรสุทธิ 112 ล้านบาท
ส่วนกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีอื่นๆ โดยเฉพาะธุรกิจในต่างประเทศยังคงมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้นและสามารถสร้างรายได้ประจำให้กับบริษัทฯ ประกอบด้วย บริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด
ผู้ให้บริการศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศบนน่านฟ้าประเทศกัมพูชา มีรายได้รวมปีที่ผ่านมา 20.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.6 เปอร์เซนต์ จากจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจผลิตไฟฟ้าป้อนให้แก่โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ภายใต้อายุสัมปทาน 10 ปี โดยบริษัท กัมปอต พาวเวอร์ แพลนด์ จำกัด ซึ่งเริ่มรับรู้รายได้แล้วในไตรมาส 4 ปี 50 จำนวนกว่าร้อยล้านบาท
บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายรายได้ในปี 51 ที่ตั้งไว้ 30,000 ล้านบาทหรือเติบโตเพิ่มขึ้นเกือบ 50% จากปัจจัยบวกต่างๆ อาทิ นโยบายสนับสนุนการลงทุนของภาครัฐ โครงการ Mega Project ต่างๆ ซึ่งจะส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและการกระจายรายได้ ซึ่งจะช่วยฟื้นคืนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุน เห็นได้จากความเคลื่อนไหวทางการตลาดที่เริ่มจะส่อแววคึกคักตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี โดยทางไอ-โมบายเองก็ได้เปิดตัวมือถือใหม่ไปแล้วจำนวน 2 รุ่น คือ 613 และ 318 จำหน่ายไปได้แล้วกว่า 500,000 เครื่อง (ในประเทศ 350,000 เครื่อง ต่างประเทศ 150,000 เครื่อง) นอกจากนี้ยังน่าจะมีข่าวดีจากการประมูลโครงการของสายธุรกิจ ICT จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาทในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้
นายวัฒน์ชัยกล่าวปิดท้ายว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล สำหรับการดำเนินงานครึ่งปีหลัง ประจำปี 2550 ของทั้ง 3 บริษัทในกลุ่มที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ประกอบด้วย
1. บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในอัตราหุ้นละ 0.18 บาท เมื่อรวมกับการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอัตราหุ้นละ 0.18 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 351.5 ล้านบาท
2. บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท เมื่อรวมกับการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 60 ล้านบาท
3. บริษัท สามารถไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท เมื่อรวมกับการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอัตราหุ้นละ 0.32 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 266.60 ล้านบาท
“กลุ่มบริษัทสามารถ” มุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการด้านเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าอย่างครบวงจร ภายใต้บริษัทในเครือกว่า 20 บริษัท และมี 3 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) โดยแบ่งออกเป็น 3 สายธุรกิจ คือ สายธุรกิจสื่อสารไอทีและโทรคมนาคมครบวงจรครบวงจร (ICT Solutions) สายธุรกิจการสื่อสารข้อมูลและอุปกรณ์สื่อสารไอที (Mobile Multimedia) และสายธุรกิจอื่นๆ (Related Business)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
PR.Corp. วทิรา ลุยากร (ใหม่)
โทร.0- 2502-8236
วรรษกร ปลื้มจิตต์ (ตุ๊ก)
โทร. 0-2502-8687
E-mail: Vathira.L@samartcorp.com