กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--IRPLUS
"แอพพลิแคด" ปิดท้ายโรดโชว์กรุงเทพฯ หลังเดินสาย 2 จังหวัดใหญ่ จ.เชียงใหม่ และหาดใหญ่ จ.สงขลา นักลงทุนตอบรับคึกคัก "ประภาส ตั้งอดุลย์รัตน์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โชว์ศักยภาพความเป็นผู้นำในธุรกิจจัดจำหน่ายโซลูชั่นด้านการออกแบบ 3 มิติอย่างครบวงจร พร้อมเติบโตบนพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ด้าน "สมภพ กีระสุนทรพงษ์" กรรมการผู้อำนวยการ บล. ฟินันเซีย ไซรัส ที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำการจัดจำหน่าย มั่นใจนักลงทุนให้การตอบรับดีเยี่ยม คาดจะสามารถเสนอขายหุ้นไอพีโอและนำหุ้นเข้าเทรดได้ภายในไตรมาส 4 นี้
นายประภาส ตั้งอดุลย์รัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอพพลิแคด จำกัด (มหาชน) หรือ APP เปิดเผยว่าในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)
ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ได้เดินสายนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน (โรดโชว์) ใน 3จังหวัด ประกอบด้วย จ.เชียงใหม่ และอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และปิดท้ายการโรดโชว์ให้แก่นักลงทุนที่กรุงเทพฯ ในวันนี้ (13 พ.ย.) ปรากฎว่าได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุน ทำให้มั่นใจว่าในช่วงที่เปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอกระแสตอบรับจากนักลงทุนจะเป็นไปอย่างคึกคักเช่นกัน
"บริษัทฯ มีประสบการณ์ในธุรกิจมานานกว่า 25 ปี และให้ความสำคัญอย่างมากในการสรรหาผลิตภัณฑ์ โดยจะเน้นซอฟต์แวร์และผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และล้วนแล้วแต่เป็นนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงจากเจ้าของผลิตภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก ที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ความต้องการด้านการออกแบบของลูกค้าทั้งทางด้านอุตสาหกรรม และด้านสถาปัตยกรรมและก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีฝ่ายวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่รับผิดชอบในการพัฒนาและนำเสนอโซลูชั่นด้านการออกแบบใหม่ๆ โดยต่อยอดจากผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ จัดจำหน่ายทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและครบวงจร ซึ่งเป็นการสร้างความแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบผู้ประกอบการรายอื่น สะท้อนถึงความเป็นผู้นำในธุรกิจจัดจำหน่ายโซลูชั่นด้านการออกแบบ 3 มิติ และให้บริการอย่างครบวงจรไม่ใช่แค่เพียงประเทศไทย แต่เป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียน โดยแผนการเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในครั้งนี้ มั่นใจว่าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่ง เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและขยายตลาดได้มากขึ้น และจะสะท้อนถึงผลประกอบการที่จะเติบโตอย่างมั่นคงของ APP" นายประภาส กล่าว
สำหรับผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2559-2561) กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 540.39 ล้านบาท จำนวน 563.48 ล้านบาท จำนวน 738.96 ล้านบาท ตามลำดับ ในขณะเดียวกันกำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทฯ เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 21.23 ล้านบาท 27.73 ล้านบาท 75.24 ล้านบาท ตามลำดับ
ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2562 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 569.30 ล้านบาท กำไรขั้นต้นรวมจำนวน 263.98 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 46.89% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 49.59
ล้านบาท คิดเป็นอัตราอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 8.71%
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ APP เปิดเผยว่า การนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน (โรดโชว์) ในครั้งนี้ เพื่อให้นักลงทุนมีความเข้าใจในธุรกิจ เห็นถึงศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ ที่มีความแข็งแกร่ง และผลจากการโรดโชว์ต่อนักลงทุนรายย่อยที่ผ่านมาทั้ง จ.เชียงใหม่ และอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รวมถึงกรุงเทพฯ ที่ปิดท้ายในวันนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เนื่องจากมีนักลงทุนร่วมรับฟังข้อมูลล้นหลามแสดงให้เห็นถึงความสนใจในธุรกิจของบริษัทฯ และเห็นถึงโอกาสและศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
"ผมมั่นใจว่า APP จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจาก APP ถือเป็นบริษัทฯ ที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีความน่าสนใจอย่างมาก ด้วยจุดแข็งของ APP ซึ่งมีความสามารถในการทำกำไรสูง โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่อยู่ในระดับมากกว่า 45% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะที่ค่าใช้จ่ายหลักของบริษัทฯ คือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานที่ค่อนข้างคงที่ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีรายได้จากการให้บริการที่เกิดขึ้นเป็นประจำ คือ รายได้จากบริการ Subscription Service คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 30 ของรายได้รวม ซึ่งเป็นการให้บริการอัพเกรดซอฟต์แวร์ และบริการบำรุงรักษาเครื่องพิมพ์สามมิติ ที่จะทยอยรับรู้รายได้ตลอดระยะเวลาสัญญาบริการ โดยรายได้ดังกล่าวเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง (Recurring Income) และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามจำนวนลูกค้าที่ใช้งานที่เพิ่มขึ้น และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณปีละ 10% " นายสมภพ กล่าว
โดย APP เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 80 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 28.57 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยจะเสนอขายต่อประชาชนจำนวน 72 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.71 และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยจำนวน 8 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 2.86 โดยหุ้นทั้งสองส่วนจะเสนอขายในราคาเดียวกัน คาดจะสามารถเปิดให้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้