กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
กองทรัสต์ เอไอเอ็ม อินดัสเทรียล โกรท หรือ AIMIRT พร้อมนำหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1 เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ มั่นใจได้รับการตอบรับดีจากศักยภาพทรัพย์สินใหม่ที่เข้าลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งมีอัตราเช่าพื้นที่เต็ม 100% มีการกระจายตัวในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย และผลการดำเนินงานกองทรัสต์ฯ ในอดีตที่จ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง พร้อมประมาณการอัตราจ่ายประโยชน์ตอบแทนปีแรกหลังลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ที่ประมาณ 0.8640 บาทต่อหน่วย
นายอมร จุฬาลักษณานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์อิสระ ในฐานะผู้ก่อตั้งทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์ เอไอเอ็ม อินดัสเทรียล โกรท หรือ AIMIRT เปิดเผยว่า พร้อมนำหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1 ของกองทรัสต์ AIMIRT เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ หลังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนทุกกลุ่ม ทั้งที่เป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมและนักลงทุนรายใหม่ที่เป็นนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน โดยราคาเสนอขายสุดท้ายคือ 11.50 บาทต่อหน่วย ที่จำนวนหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนทั้งสิ้น271,250,000 หน่วย โดยกองทรัสต์ฯ มีมูลค่าลงทุนในกรรมสิทธิ์และสิทธิการเช่าในทรัพย์สินใหม่ 4 โครงการรวมมูลค่าทั้งสิ้น 4,200 ล้านบาท ซึ่งมาจากการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนและเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความมั่นใจในศักยภาพกองทรัสต์ฯ หลังจากเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ในกรรมสิทธิ์และสิทธิการเช่าในทรัพย์สินใหม่ 4 โครงการ จะเพิ่มศักยภาพแก่การดำเนินงานของกองทรัสต์ เนื่องจากทรัพย์สินใหม่ทั้งหมดล้วนมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย (ณ 31 มีนาคม 2562) เต็ม 100% และอยู่ในทำเลที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของแต่ละอุตสาหกรรมจึงมีความต้องการเช่าพื้นที่จากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ 1. ห้องเย็นโครงการเจดับเบิ้ลยูดี แปซิฟิค(ส่วนขยายเพิ่มเติม) บนถนนสุวินทวงศ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ของกลุ่มบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 ยูนิต 2. คลังสินค้าโครงการ TIP 8 บริเวณบางนา-ตราด จังหวัดสมุทรปราการ ของบริษัท ทิพย์โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 4 ยูนิต 3. ถังเก็บสารเคมีเหลว 61 ถัง และคลังสินค้า 3ยูนิต ในโครงการ SCC บนถนนสุขสวัสดิ์ จังหวัดสมุทรปราการ ของบริษัท สยามเฆมี จำกัด (มหาชน) และ 4. คลังสินค้าโครงการสวนอุตสาหกรรมบางกะดี บริเวณจังหวัดปทุมธานี ของบริษัท สวนอุตสาหกรรมบางกะดี จำกัด จำนวน 1 ยูนิต
ขณะที่การดำเนินงานย้อนหลังของกองทรัสต์ AIMIRT นับตั้งแต่จัดตั้ง อยู่ในระดับที่ดีตามเป้าหมายมาโดยตลอด ล่าสุดกองทรัสต์ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล (จากผลการดำเนินงานงวด 1 เมษายน – 31 กรกฎาคม 2562) ที่อัตรา 0.243 บาทต่อหน่วย กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ และเมื่อรวมกับที่ประกาศจ่ายเงินปันผลก่อนหน้านี้แล้ว 5 ครั้ง จึงทำให้นับตั้งแต่กองทรัสต์ฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 9 มกราคม2561 ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์แล้ว 6 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 1.1926 บาทต่อหน่วย
ทั้งนี้ ภายหลังจากกองทรัสต์ AIMIRT ได้เข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 คาดว่าประมาณการอัตราเงินจ่ายประโยชน์ตอบแทนต่อหน่วยในปีแรกอยู่ที่ประมาณ 0.8640 บาทต่อหน่วย (ประมาณการอัตราการปันส่วนกำไรสำหรับงวด 12 เดือนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ถึง 30 มิถุนายน 2563 กรณีที่กองทรัสต์เข้าลงทุนในทรัพย์สินที่กองทรัสต์จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ทั้ง 4 โครงการ ไม่เกิน 4,200 ล้านบาท โดยการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์จำนวน271,250,000 หน่วย ภายใต้สมมติฐานว่า กองทรัสต์ประมาณอัตราการจ่ายประโยชน์ผลตอบแทนร้อยละ 100 และออกหน่วยเพิ่มเติม 271,250,000 หน่วย ที่ราคา 11.50 บาทต่อหน่วย)
นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า กองทรัสต์ AIMIRT ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะยาวเพื่อรับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอจากเงินปันผล เนื่องจากกองทรัสต์ฯ มีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่ดี สามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นอกจากนี้การที่กองทรัสต์ฯ บริหารงานโดยผู้จัดการกองทรัสต์อิสระที่ไม่ได้เป็นบริษัทในเครือของเจ้าของทรัพย์สิน จะทำหน้าที่บริหารจัดการกองทรัสต์อย่างเป็นกลางเพื่อรักษาผลประโยชน์แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้กองทรัสต์ฯ สามารถเข้าลงทุนในทรัพย์สินใหม่อย่างเปิดกว้างทั้งจากเจ้าของทรัพย์สินรายเดิมหรือรายใหม่ก็ได้